คณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา นำโดยนายชีวะภาพ ชีวะธรรม ประธานคณะกรรมาธิการ พร้อมด้วยนายกิติศักดิ์ หมื่นศรี รองประธานคณะกรรมาธิการกฎหมายและยุติธรรม นายจีระศักดิ์ ชูความดี รองประธานกรรมาธิการคนที่ 3 และนายกัมพล ทองชิว ที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการ ลงพื้นที่ตรวจสอบการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติในเขตพื้นที่ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา โดยพบกลุ่มนายทุนจีนกว้านซื้อที่ดินของชาวบ้านเพื่อปลูกสวนทุเรียนขนาดใหญ่กว่า 700 ไร่

การลงพื้นที่ครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากมีการรายงานว่า ที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติถูกนำมาทำสวนทุเรียน โดยเจ้าหน้าที่พบว่ามีการปลูกทุเรียนอายุประมาณ 2 ปี จำนวนหลายพันต้นในพื้นที่ ซึ่งการปลูกทุเรียนดังกล่าวไม่เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย และบางส่วนยังมีการสร้างสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ เช่น บ้านพักคนงาน และระบบการชลประทานที่ไม่ได้รับอนุญาตจากทางการ

นายชีวะภาพเปิดเผยว่า ปัญหาการบุกรุกป่าเพื่อทำสวนทุเรียนในพื้นที่ภาคตะวันออกกำลังทวีความรุนแรง โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอท่าตะเกียบที่มีการเข้ามาของกลุ่มนายทุนจากประเทศจีน ซึ่งมีการซื้อที่ดินในรูปแบบซับซ้อนผ่านบริษัทที่มีการถือหุ้นร่วมกับคนไทย เพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจสอบและปฏิบัติตามกฎหมายการถือครองที่ดินในประเทศไทย

"การเข้ามาของกลุ่มทุนต่างชาติในครั้งนี้ เป็นการสร้างความกังวลเกี่ยวกับการแผ่ขยายของทุนต่างชาติในพื้นที่ ที่ดินหลายแปลงที่เคยถูกจัดสรรให้ประชาชนผ่านโครงการ คทช. ถูกโอนย้ายไปอยู่ในมือของกลุ่มนายทุนต่างชาติ ซึ่งไม่มีความเกี่ยวข้องกับการขอสิทธิ์ตามกฎหมายของที่ดินในป่าสงวน" นายชีวะภาพกล่าว

นอกจากนี้ นายชีวะภาพยังเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้กฎหมายป่าไม้ในการจัดการกับกลุ่มบุกรุกที่ดินและทำลายทรัพยากรธรรมชาติของประเทศ พร้อมทั้งเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการสอบสวนและตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินอย่างละเอียด เนื่องจากการลงทุนในสวนทุเรียนเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าตลาดสูง ซึ่งอาจมีการฟอกเงินผ่านการซื้อที่ดินและการพัฒนาสวนทุเรียน

"การแก้ปัญหานี้ต้องใช้วิธีการที่เด็ดขาด ไม่เพียงแค่การยึดคืนที่ดิน แต่ต้องมีการติดตามการทำธุรกรรมการเงินที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มทุนต่างชาติอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันไม่ให้การทำธุรกิจนี้กลายเป็นช่องทางในการฟอกเงิน" นายชีวะภาพกล่าว

คณะกรรมาธิการได้แนะนำให้กรมป่าไม้และกรมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการหาหลักฐานที่ชัดเจนในการดำเนินคดีกับกลุ่มบุกรุกที่ดินและการขายที่ดินให้กับกลุ่มทุนต่างชาติ ทั้งทางแพ่งและอาญา พร้อมทั้งต้องจัดการให้มีการปลูกป่าทดแทนและสร้างพื้นที่ป่าชุมชนในพื้นที่ที่ถูกทำลายไป

การตรวจสอบครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการควบคุมการบุกรุกทรัพยากรธรรมชาติและการปกป้องพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติในประเทศไทย โดยมุ่งเน้นไปที่การตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ทรัพยากรธรรมชาติของประเทศได้รับการปกป้องจากการกระทำที่ไม่เป็นธรรมและทำลายสิ่งแวดล้อมในระยะยาว