Samsung ได้ยืนยันอย่างเป็นทางการว่า Exynos 2400e ที่ใช้ใน Galaxy S24 FE นั้นคือชิปตัวเดียวกับ Exynos 2400 ที่พัฒนาและปรับแต่งให้เข้ากับสมาร์ทโฟนในกลุ่ม Fan Edition (FE) โดย Samsung ยืนยันว่าชิปนี้มีประสิทธิภาพในระดับเรือธง และสามารถตอบสนองต่อการใช้งานที่หลากหลายได้อย่างดีเยี่ยม

การเลือกใช้ Exynos 2400e ใน Galaxy S24 FE แสดงให้เห็นว่า Samsung มุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์ระดับสูงให้กับผู้ใช้งานในราคาที่เข้าถึงได้ นับเป็นอีกก้าวหนึ่งที่ Samsung ตั้งใจนำเสนอสมาร์ทโฟนที่ผสมผสานประสิทธิภาพและนวัตกรรมในราคาที่ไม่สูงเกินไป

เทคโนโลยี Exynos 2400: ความแรงที่ไม่ธรรมดา

ชิป Exynos 2400 นั้นถือเป็นนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นเพื่อแข่งขันในตลาดชิปเซ็ตระดับเรือธง โดยการออกแบบใช้กระบวนการผลิตที่ล้ำสมัยระดับ 4 นาโนเมตร (nm) ซึ่งช่วยให้ตัวชิปมีประสิทธิภาพการทำงานสูงขึ้น แต่ใช้พลังงานน้อยลง สิ่งนี้ช่วยให้ Galaxy S24 FE สามารถรองรับการใช้งานที่หลากหลายได้ ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานประจำวัน การเล่นเกม การสตรีมวิดีโอ หรือการถ่ายภาพด้วยความละเอียดสูง

ในแง่ของ CPU Exynos 2400 มาพร้อมกับ 10 คอร์ ซึ่งประกอบด้วยคอร์ที่มีความเร็วและประสิทธิภาพที่แตกต่างกัน ทำให้สามารถจัดการกับงานที่ซับซ้อนและงานพื้นฐานได้ในเวลาเดียวกัน นอกจากนี้ Exynos 2400 ยังพัฒนาขึ้นเพื่อรองรับการทำงานมัลติทาสก์ที่รวดเร็ว และประสบการณ์การใช้งานที่ลื่นไหลไม่สะดุด

GPU Xclipse 940: พลังการประมวลผลกราฟิกขั้นสูง

หนึ่งในจุดเด่นของ Exynos 2400 คือการนำเทคโนโลยีจาก AMD RDNA2 มาใช้ใน GPU Xclipse 940 โดย GPU นี้ไม่เพียงแต่ช่วยในการประมวลผลกราฟิกที่รวดเร็ว แต่ยังรองรับการทำงาน Ray Tracing ที่เป็นเทคโนโลยีกราฟิกสมัยใหม่ ช่วยให้การแสดงผลของแสงและเงาในเกมหรือแอปพลิเคชันกราฟิกมีความสมจริงมากขึ้น

เทคโนโลยี Ray Tracing นี้เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่พบในเกมคอนโซลระดับสูง ซึ่งการนำมาใช้ในสมาร์ทโฟนแสดงถึงความก้าวหน้าของ Samsung ในการพัฒนาชิปเซ็ต Exynos 2400 และ Galaxy S24 FE ถือเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่รองรับฟีเจอร์นี้

ความสามารถในการถ่ายภาพและวิดีโอที่เหนือชั้น

การถ่ายภาพและวิดีโอเป็นอีกหนึ่งจุดขายสำคัญของ Galaxy S24 FE โดย Exynos 2400e ได้รับการออกแบบมาให้รองรับการทำงานร่วมกับกล้องประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะการถ่ายวิดีโอที่มีความละเอียดสูงสุดถึง 8K ซึ่งนับว่าเป็นคุณสมบัติที่ไม่ค่อยพบในสมาร์ทโฟนในกลุ่มราคานี้ นอกจากนั้นยังมีระบบซูมสูงสุดถึง 30 เท่า ซึ่งช่วยให้การถ่ายภาพที่มีระยะไกลสามารถทำได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ Exynos 2400e ยังมาพร้อมกับหน่วยประมวลผล NPU (Neural Processing Unit) ที่ถูกปรับปรุงใหม่ เพื่อรองรับการใช้งานฟีเจอร์ AI (Artificial Intelligence) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฟีเจอร์ AI เหล่านี้ไม่เพียงแต่ช่วยในการประมวลผลภาพถ่ายและวิดีโอให้สวยงามเท่านั้น แต่ยังช่วยในการประมวลผลภาษาไทยในแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่ใช้ AI ช่วยในการแปลหรือสั่งงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ประสิทธิภาพที่ครอบคลุมทุกการใช้งาน

แม้ว่าจะเป็นชิปที่อยู่ในรุ่น FE แต่ Exynos 2400e ยังคงสามารถรองรับการใช้งานได้หลายรูปแบบ ตั้งแต่การใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น การเปิดแอปพลิเคชันทั่วไป การใช้งานโซเชียลมีเดีย ไปจนถึงการเล่นเกมที่มีกราฟิกหนัก ซึ่งในที่นี้ Galaxy S24 FE สามารถมอบประสบการณ์การเล่นเกมที่ลื่นไหลด้วยการรองรับอัตรารีเฟรช 120Hz บนหน้าจอ OLED ขนาดใหญ่ ที่ให้ภาพสีสันคมชัดและมีการตอบสนองที่ดีเยี่ยม

นอกจากนี้ Galaxy S24 FE ยังสามารถจัดการการใช้งานที่ต้องการพลังงานสูง เช่น การสตรีมวิดีโอความละเอียดสูง หรือการแก้ไขรูปภาพและวิดีโอได้อย่างราบรื่น โดยไม่เกิดอาการร้อนหรือหน่วง ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญเมื่อเทียบกับสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นในระดับราคาเดียวกัน

การปรับปรุงพลังงานและการจัดการความร้อน

Samsung ยังคำนึงถึงการจัดการพลังงานและการระบายความร้อนใน Exynos 2400e ซึ่งใช้กระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพสูง ทำให้สามารถจัดการพลังงานได้ดีกว่ารุ่นก่อน ๆ ส่งผลให้ Galaxy S24 FE สามารถใช้งานได้นานขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการใช้พลังงานที่มากเกินไป

นอกจากนี้ยังมีการปรับปรุงเรื่องการระบายความร้อนให้กับตัวชิปเซ็ต ซึ่งช่วยลดความร้อนที่เกิดจากการใช้งานในเวลานาน เช่น การเล่นเกมหรือการสตรีมมิ่ง ส่งผลให้การใช้งาน Galaxy S24 FE สามารถทำได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่เกิดปัญหาเครื่องร้อนเกินไป