บลูมเบิร์กรายงานว่า Tesla ได้ยุติการดำเนินงานทีมพัฒนา “Dojo” ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่เคยถูกวางเป็นหัวใจของเทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติ พร้อมสิ้นสุดแผนการผลิตชิป AI ภายในบริษัท หลังจากที่ปีเตอร์ แบนนอน หัวหน้าทีม Dojo ตัดสินใจอำลาตำแหน่ง และสมาชิกที่เหลือถูกย้ายไปทำโครงการด้านศูนย์ข้อมูลและการประมวลผลอื่น ๆ ภายในเทสลา

การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นหลังจากมีพนักงานราว 20 คนลาออกไปก่อตั้งสตาร์ทอัพ AI ใหม่ชื่อ DensityAI โดยมีอดีตหัวหน้าโครงการ Dojo กาเนช เวงกาตารามานัน ร่วมกับอดีตทีมงานเทสลาอีก 2 คน ซึ่งเตรียมเปิดตัวเทคโนโลยีชิป ฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์สำหรับศูนย์ข้อมูล AI ที่ใช้ในหุ่นยนต์ ระบบ AI อัตโนมัติ และยานยนต์

เดิมที อีลอน มัสก์ ซีอีโอของเทสลา เคยโปรโมต Dojo ตั้งแต่ปี 2019 ว่าเป็นเครื่องมือสำคัญสู่การบรรลุระบบขับขี่อัตโนมัติเต็มรูปแบบ ด้วยศักยภาพประมวลผลข้อมูลวิดีโอจำนวนมหาศาล นักวิเคราะห์จากมอร์แกนสแตนลีย์เคยประเมินว่า Dojo อาจสร้างมูลค่าเพิ่มให้เทสลาถึง 500,000 ล้านดอลลาร์ แต่การกล่าวถึงโครงการนี้เงียบลงตั้งแต่กลางปี 2024 เมื่อมัสก์หันมานำเสนอ “Cortex” ซูเปอร์คลัสเตอร์ AI ขนาดใหญ่รุ่นใหม่ที่สำนักงานใหญ่ในออสตินแทน

Dojo เคยเป็นทั้งโครงการซูเปอร์คอมพิวเตอร์และการพัฒนาชิปในบ้าน โดยเทสลาเปิดตัวชิป D1 ในงาน AI Day ปี 2021 พร้อมแผนพัฒนา D2 เพื่อแก้ปัญหาคอขวดด้านการไหลของข้อมูล แต่ล่าสุด แหล่งข่าวเผยว่าเทสลาจะเพิ่มการพึ่งพาชิปและโซลูชันจากพันธมิตรอย่าง Nvidia, AMD และซัมซุง โดยเมื่อเดือนก่อนเพิ่งลงนามข้อตกลง 16.5 พันล้านดอลลาร์กับซัมซุง เพื่อผลิตชิป AI6 ซึ่งสามารถใช้ได้ทั้งในระบบขับขี่อัตโนมัติ หุ่นยนต์ Optimus และการฝึก AI ในดาต้าเซ็นเตอร์

ข่าวนี้มีขึ้นในช่วงที่บอร์ดบริหารเทสลาเสนอแพ็กเกจค่าตอบแทน 29,000 ล้านดอลลาร์ให้กับมัสก์ เพื่อกระตุ้นให้มุ่งเน้นพัฒนาโครงการ AI ภายในบริษัท แทนที่จะทุ่มเวลาให้กับธุรกิจอื่นอย่าง xAI

ที่มา : techcrunch