Honor กำลังเตรียมสร้างกระแสครั้งใหม่ในตลาดสมาร์ตโฟนเรือธงด้วยการเปิดตัว Honor GT 2 Series ซึ่งคาดว่าจะประกอบไปด้วยสองรุ่นคือ Honor GT 2 และ Honor GT 2 Pro โดยมีแผนเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคมนี้ แม้ทางแบรนด์ยังไม่ได้เผยข้อมูลใด ๆ อย่างเป็นทางการ แต่แหล่งข่าวเชื่อถือได้อย่าง Digital Chat Station (DCS) ได้เปิดเผยสเปกหลักของทั้งสองรุ่นออกมาแล้ว ทำให้เราเห็นภาพชัดเจนว่า Honor กำลังเตรียมส่งสมาร์ตโฟนสายแรงและอึดลงสู่ตลาดเพื่อแข่งขันกับคู่แข่งระดับท็อปในช่วงปลายปีนี้
จากข้อมูลของ DCS ระบุว่า Honor GT 2 จะใช้ชิปประมวลผล Snapdragon 8 Elite ซึ่งเป็นชิปรุ่นเรือธงของปี 2024 ขณะที่รุ่นพี่อย่าง Honor GT 2 Pro จะก้าวไปอีกขั้นด้วยการติดตั้ง Snapdragon 8 Elite Gen 5 รุ่นใหม่ล่าสุดจาก Qualcomm ที่ให้ประสิทธิภาพ CPU และ GPU สูงขึ้นกว่าเดิมถึง 20–25% พร้อมประสิทธิภาพด้านพลังงานที่ดีกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ถือเป็นหนึ่งในสมาร์ตโฟนรุ่นแรก ๆ ของโลกที่จะได้ใช้ชิปตัวนี้อย่างเป็นทางการ
ทั้งสองรุ่นจะมาพร้อมดีไซน์ระดับพรีเมียมด้วย บอดี้โลหะ (Metal Build) และหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.83 นิ้ว ความละเอียด 1.5K รองรับรีเฟรชเรต 120Hz ให้ภาพคมชัด ลื่นไหล และสีสันสดใสเหมาะสำหรับการเล่นเกมและการรับชมคอนเทนต์ความละเอียดสูง โดยในส่วนของกล้องหลัก Honor GT 2 Series จะติดตั้งกล้องหลักความละเอียด 50MP ที่มาพร้อมเซนเซอร์ขนาดใหญ่ รองรับการถ่ายภาพในที่แสงน้อยและวิดีโอระดับ 4K ซึ่งถือเป็นมาตรฐานใหม่ของสมาร์ตโฟนเรือธงในยุคนี้
จุดที่ทำให้หลายคนให้ความสนใจมากที่สุดคือแบตเตอรี่ เพราะตามรายงานของ DCS ระบุว่า Honor GT 2 Series จะมาพร้อม แบตเตอรี่ขนาด 9,000 mAh หรือมากกว่า ซึ่งหากข้อมูลนี้เป็นจริง จะกลายเป็นสมาร์ตโฟนเรือธงที่มีแบตเตอรี่ความจุมากที่สุดในตลาดทันที โดยก่อนหน้านี้ Honor GT Pro ที่เปิดตัวในเดือนเมษายน 2025 ก็สร้างชื่อด้วยแบตเตอรี่ขนาด 7,200 mAh และระบบชาร์จไว 100W ดังนั้นมีความเป็นไปได้สูงว่า GT 2 Pro จะยกระดับขึ้นไปอีกขั้นด้วยระบบชาร์จไว 120W หรืออาจถึง 150W เพื่อให้การใช้งานต่อเนื่องทั้งวันไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
อีกหนึ่งจุดที่น่าสนใจคือ Honor GT 2 Series จะติดตั้งระบบ สแกนลายนิ้วมือแบบ 3D Ultrasonic Fingerprint ฝังใต้หน้าจอ ซึ่งมีความแม่นยำสูงและสามารถใช้งานได้แม้ในขณะที่นิ้วเปียก ต่างจากเซนเซอร์แบบ Optical ที่ใช้ในสมาร์ตโฟนส่วนใหญ่ในตลาด ขณะเดียวกันยังมีข้อมูลว่ารุ่นใหม่นี้จะมาพร้อม มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นเต็มรูปแบบ ซึ่งคาดว่าจะรองรับระดับ IP68 และ IP69 เทียบเท่าสมาร์ตโฟนเรือธงระดับสูงของ Samsung และ Sony
ในแง่ของแนวคิดการออกแบบ Honor GT Series ถือเป็นสายที่เน้นประสิทธิภาพต่อราคา เหมาะสำหรับผู้ใช้ที่ต้องการสมาร์ตโฟนแรงระดับเรือธงในราคาที่คุ้มค่ากว่าแบรนด์คู่แข่ง โดยรุ่นก่อน ๆ อย่าง Honor GT Pro ได้รับคำชมอย่างมากในเรื่องความเสถียร การระบายความร้อน และความอึดของแบตเตอรี่ รุ่นใหม่นี้จึงถูกคาดหวังว่าจะต่อยอดความสำเร็จนั้น พร้อมยกระดับดีไซน์และประสิทธิภาพให้ใกล้เคียงกับสมาร์ตโฟนระดับพรีเมียมแต่ยังคงราคาที่เข้าถึงได้
มีรายงานว่าการเปิดตัวของ Honor GT 2 Series จะเกิดขึ้นในประเทศจีนช่วงเดือนธันวาคม 2025 ก่อนจะทยอยวางจำหน่ายทั่วโลกในช่วงต้นปี 2026 ซึ่งจะชนกับช่วงเวลาการเปิดตัวของคู่แข่งโดยตรง เช่น Xiaomi 15T Pro, Realme GT Neo 7, และ POCO F8 Ultra นั่นหมายความว่าเดือนสุดท้ายของปีนี้จะเป็นศึกใหญ่ของตลาดสมาร์ตโฟนเรือธงราคาคุ้มค่าอย่างแน่นอน
หาก Honor ยังคงกลยุทธ์ด้านราคาในระดับเดิม โดยเปิดตัวรุ่น GT 2 Pro ในช่วงราคาประมาณ 20,000–25,000 บาท ก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะกลายเป็น “สมาร์ตโฟนเรือธงราคาคุ้มที่สุดแห่งปี” ด้วยสเปกที่จัดเต็ม ทั้งชิป Snapdragon 8 Elite Gen 5, หน้าจอ 120Hz, กล้อง 50MP, แบตเตอรี่ 9,000 mAh และระบบกันน้ำระดับ IP69 ซึ่งถือว่าหาได้ยากในสมาร์ตโฟนระดับราคาเดียวกัน
ด้วยข้อมูลทั้งหมดนี้ ทำให้ Honor GT 2 Series กลายเป็นหนึ่งในรุ่นที่ถูกจับตามากที่สุดในช่วงปลายปี 2025 เพราะมันไม่เพียงแต่เป็นสัญลักษณ์ของพลังและความอึดในแบบฉบับของ Honor แต่ยังอาจเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ของสมาร์ตโฟนเรือธงที่ทั้ง “แรง อึด และทน” อย่างแท้จริง ซึ่งเราคงต้องรอติดตามการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคมนี้ ว่า Honor จะสร้างความเซอร์ไพรส์อะไรเพิ่มเติมให้แฟน ๆ ทั่วโลกอีกบ้าง
