ซัมซุงกำลังพิจารณาปรับโครงสร้างการพัฒนาชิป Exynos โดยการนำทีมออกแบบชิปมารวมไว้ในธุรกิจ Samsung MX (Mobile Experience) เพื่อให้สามารถพัฒนาและปรับปรุงประสิทธิภาพของชิป Exynos ให้ดียิ่งขึ้น โดยจะเน้นการทำงานร่วมกันระหว่างทีมพัฒนาชิปและทีมมือถือ เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานที่สมบูรณ์แบบทั้งในด้านประสิทธิภาพการทำงานและการจัดการพลังงาน ซึ่งคาดว่าอาจจะช่วยทำให้ Exynos สามารถแข่งขันกับชิปของ Qualcomm อย่าง Snapdragon ได้ดียิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม การปรับโครงสร้างครั้งนี้มีความท้าทายไม่น้อย โดยเฉพาะการต้องจัดการความขัดแย้งภายในทีมซัมซุงเอง ซึ่งมีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยกับการรวมทีมพัฒนา Exynos กับ Samsung MX และฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ข้อขัดแย้งหลักคือการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างครั้งนี้อาจทำให้เกิดความไม่มั่นคงในด้านการจัดการและทิศทางการพัฒนา ซึ่งอาจทำให้กระบวนการพัฒนาช้าลงได้

ส่วนสาเหตุหลักที่ทำให้ซัมซุงพิจารณาการปรับโครงสร้างทีมพัฒนาชิปนี้มาจากประสิทธิภาพของ Samsung LSI (Large Scale Integration) ที่ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการล่าช้าในการพัฒนาชิป Exynos รุ่นใหม่ ๆ ที่ไม่สามารถเสร็จตามกำหนดเวลาในการเปิดตัวสมาร์ทโฟนระดับ Flagship อย่าง Galaxy S25 และ Galaxy S23 ซึ่งส่งผลให้ Exynos ยังคงไม่สามารถเทียบชั้นกับชิป Snapdragon ของ Qualcomm ที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง

การขาดความสามารถในการผลิตชิป Exynos ที่มีประสิทธิภาพสูงในระดับเดียวกับ Snapdragon นั้น ส่งผลกระทบต่อประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้สมาร์ทโฟนซัมซุง ซึ่งทำให้เกิดการชะลอการพัฒนาในบางส่วน แม้ว่าจะมีการใช้ชิป Exynos ในบางตลาด แต่การขาดความสามารถในการแข่งขันกับ Qualcomm ก็ทำให้ผู้ใช้หลายคนเลือกซื้อสมาร์ทโฟนที่ใช้ Snapdragon แทน

นอกจากนี้ แม้ว่าการปรับโครงสร้างทีมจะสามารถเสริมสร้างประสิทธิภาพในการพัฒนา Exynos ได้ในระยะยาว แต่ซัมซุงยังต้องเผชิญกับอุปสรรคใหญ่จากฝ่ายผลิตชิปเอง โดยเฉพาะกับการที่ Samsung Foundry ไม่สามารถตามทันคู่แข่งหลักอย่าง TSMC ในการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชิปที่ทันสมัย เช่น เทคโนโลยีการผลิตในระดับ 3 นาโนเมตรที่ TSMC สามารถนำมาใช้ในการผลิตชิปของ Apple และ Qualcomm ซึ่งทำให้ซัมซุงต้องพยายามปรับปรุงกระบวนการผลิตของตัวเองให้สามารถผลิตชิป Exynos ที่มีประสิทธิภาพและประหยัดพลังงานมากขึ้น

อีกหนึ่งความท้าทายที่ซัมซุงอาจต้องเผชิญคือการพัฒนาชิปที่สามารถรองรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น 5G, AI, และการประมวลผลขั้นสูง ซึ่งต้องใช้เทคโนโลยีที่ซับซ้อนและใช้พลังงานต่ำ การที่ซัมซุงต้องแข่งขันกับคู่แข่งที่มีความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยีนี้เช่น TSMC และ Qualcomm อาจทำให้ซัมซุงต้องลงทุนเพิ่มเติมในการวิจัยและพัฒนาเพื่อให้สามารถตามทันเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา

การปรับโครงสร้างทีมพัฒนา Exynos จึงเป็นการพยายามที่จะยกระดับประสิทธิภาพของชิป Exynos ให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดสมาร์ทโฟนระดับโลกได้ โดยหวังว่าจะสามารถลดช่องว่างระหว่าง Exynos และ Snapdragon ได้ในอนาคต แต่สิ่งที่ซัมซุงต้องเผชิญคือการแข่งขันที่รุนแรงในวงการชิปสมาร์ทโฟน ซึ่งทำให้การพัฒนาในครั้งนี้จะต้องใช้เวลาและทรัพยากรที่มากมายเพื่อให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในระดับสูงได้