น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประชุมผ่านระบบ Video Conference ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด 12 จังหวัดภาคใต้ เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ฝนตกหนักที่คาดว่าจะเกิดขึ้นระหว่างวันที่ 12-16 ธ.ค. 2567 พร้อมกำชับให้ทุกหน่วยงานเตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชนและบรรเทาความเสียหาย

เพิ่มงบฉุกเฉิน เยียวยาประชาชนเร็วขึ้น
นายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ได้ปรับเพิ่มหลักเกณฑ์งบฉุกเฉินจาก 20 ล้านบาทต่อจังหวัด เป็น 70 ล้านบาท เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างรวดเร็ว โดยเบื้องต้นรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณ 5,000 ล้านบาท เพื่อเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วมก่อนหน้านี้แล้ว รายละ 9,000 บาท และได้จ่ายเงินไปแล้วกว่า 2,700 ล้านบาท

นายกฯ ย้ำให้ทุกจังหวัดเร่งสำรวจความเสียหายและแจกจ่ายเงินช่วยเหลือให้ทันต่อความต้องการของประชาชน พร้อมระบุว่า สถานการณ์ครั้งนี้มีความท้าทายเนื่องจากมีการคาดการณ์ปริมาณฝนที่หนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่

เตรียมพร้อมรับมือ 24 ชม.
ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ศปภ.) ได้รับคำสั่งจากนายกฯ ให้เฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง โดยพื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนัก ได้แก่ ชุมพร, สุราษฎร์ธานี, นครศรีธรรมราช, พัทลุง, สงขลา, ระนอง, ตรัง, ปัตตานี, ยะลา และนราธิวาส

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศปช. ระบุว่า ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมเครื่องมือ เครื่องจักร และศูนย์พักพิงชั่วคราวในพื้นที่เสี่ยง พร้อมส่งกำลังพลเข้าช่วยเหลือประชาชนทันทีในกรณีฉุกเฉิน

เน้นความพร้อมในทุกมิติ

  • กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และ กรมชลประทาน เตรียมแผนรับมือและอุปกรณ์ช่วยเหลือ
  • กระทรวงคมนาคม เร่งตรวจสอบเส้นทางถนนและระบบราง เตรียมแผนใช้เส้นทางเลี่ยงในกรณีที่เกิดน้ำท่วม
  • กรมทรัพยากรธรณี เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงดินโคลนถล่ม
  • กระทรวงสาธารณสุข เตรียมป้องกันโรงพยาบาลจากน้ำท่วมและเคลื่อนย้ายผู้ป่วยไปยังพื้นที่ปลอดภัย

นายกฯ ย้ำว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมใช้บทเรียนจากเหตุการณ์น้ำท่วมในภาคเหนือที่ผ่านมา เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด