ลอสแอนเจลิส, 11 ม.ค. (รอยเตอร์) – กระทรวงคมนาคมของแคลิฟอร์เนียรายงานว่า ไฟป่าที่รุนแรงที่สุดในลอสแอนเจลิส ซึ่งเกิดขึ้นตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา ได้พลิกทิศทางในวันเสาร์นี้ ทำให้มีคำสั่งอพยพเพิ่มเติมและเพิ่มความท้าทายให้แก่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เหน็ดเหนื่อยจากการทำงานตลอดหลายวัน

ไฟป่า 6 จุดที่เกิดขึ้นพร้อมกันในเขตลอสแอนเจลิสตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา ได้คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 11 คน และทำลายหรือเสียหายอาคารประมาณ 10,000 หลัง ตัวเลขผู้เสียชีวิตคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ดับเพลิงสามารถดำเนินการตรวจสอบตามบ้านได้

ในช่วงเย็นวันศุกร์ที่ผ่านมา ลมซานตาอาน่าที่พัดพาไฟออกไปเริ่มสงบลง แต่ไฟป่าในพื้นที่ปาลิเซดส์ (Palisades Fire) ทางตะวันตกของเมืองกลับทวีความรุนแรงและเปลี่ยนทิศทาง ทำให้ต้องมีการสั่งอพยพเพิ่มเติม โดยไฟได้เคลื่อนตัวไปยังย่านเบรนท์วูด (Brentwood) และภูเขาในหุบเขาซานเฟอร์นันโด (San Fernando Valley)

สถานการณ์ที่ทวีความรุนแรง

ไฟป่าครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่ทำลายล้างมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของลอสแอนเจลิส โดยทำลายย่านที่อยู่อาศัยทั้งหมด ทิ้งเพียงซากเถ้าถ่านของบ้านเรือนและทรัพย์สินที่เคยเป็นของผู้คน ก่อนที่การระเบิดของไฟจะลุกลามอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้รายงานถึงความคืบหน้าในการควบคุมไฟป่าบางจุด เช่น ไฟป่าปาลิเซดส์ (Palisades Fire) ที่ควบคุมได้เพียง 8% และไฟอีตัน (Eaton Fire) ที่ควบคุมได้ 3% โดยไฟทั้งสองจุดนี้ได้เผาผลาญพื้นที่ไปแล้วกว่า 35,000 เอเคอร์ (14,100 เฮกตาร์) หรือประมาณ 54 ตารางไมล์

ปัจจุบันมีประชาชนประมาณ 153,000 คนที่ต้องอพยพ และอีกประมาณ 166,800 คนที่ได้รับคำเตือนให้อพยพ โดยมีกำหนดเคอร์ฟิว (curfew) สำหรับทุกพื้นที่ที่อยู่ภายใต้คำสั่งอพยพ

ความช่วยเหลือจากรัฐและรัฐบาลกลาง

รัฐและรัฐบาลกลาง รวมถึงประเทศแคนาดาได้เร่งส่งความช่วยเหลือไปยังแคลิฟอร์เนีย โดยมีทีมทางอากาศที่นำเครื่องบินบรรทุกน้ำและสารเคมีดับเพลิงมาช่วยสกัดไฟในภูเขาและเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินที่ใช้เครื่องมือมือและสายยางในการต่อสู้กับไฟ

วิกฤตมลพิษและความเสียหายทางเศรษฐกิจ

เนื่องจากไฟป่าครั้งนี้ทำให้เกิดมลพิษทางอากาศอย่างหนัก มีประชาชนจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบจากการหายใจเอามลพิษเข้าไป รวมทั้งการสูญเสียพลังงานไฟฟ้าและการปนเปื้อนของโลหะ พลาสติก และวัสดุสังเคราะห์อื่น ๆ ในอากาศ

การคาดการณ์ความเสียหายทางเศรษฐกิจและการสูญเสียได้สูงถึง 135-150 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะทำให้ค่าเบี้ยประกันบ้านพุ่งสูงขึ้นในอนาคต

ประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ประกาศให้เหตุการณ์ไฟป่าครั้งนี้เป็นภัยพิบัติที่ใหญ่ที่สุด และได้ให้คำมั่นว่ารัฐบาลสหรัฐจะช่วยรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟู 100% ในช่วง 6 เดือนข้างหน้า

การฟื้นฟูและการช่วยเหลือ

ในขณะนี้หลายครอบครัวที่ได้รับผลกระทบจากไฟป่ากำลังพยายามหาทรัพย์สินที่สูญหายและเตรียมการเพื่อฟื้นฟูพื้นที่ที่เสียหาย แม้ว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจจากเหตุการณ์นี้จะยังคงยาวนาน แต่ก็มีความพยายามอย่างต่อเนื่องจากทุกฝ่ายเพื่อให้การฟื้นฟูเป็นไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

ที่มา : reuters