วันที่ 23 มกราคม 2568 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงานได้ดำเนินการตามนโยบายเพื่อป้องกันคนไทยถูกหลอกลวงไปทำงานต่างประเทศ โดยเฉพาะจากกลุ่มนายหน้าเถื่อนที่ใช้วิธีหลอกลวงเพื่อหาผลประโยชน์จากผู้หางานอย่างไม่ถูกต้อง ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากความไม่รู้หรือความเร่งรีบในการหางาน

จากรายงานพบว่า ประเทศที่คนหางานมักตกเป็นเหยื่อการหลอกลวงมากที่สุดได้แก่ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี สหรัฐอเมริกา และไอซ์แลนด์ ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายจากการหลอกลวงในปีที่ผ่านมาเกิน 45 ล้านบาท ขณะที่ในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2567 มีจำนวนผู้เสียหายเพิ่มขึ้นอีก โดยเฉพาะในประเทศอย่าง มาเลเซียและแคนาดา

เพื่อให้คนหางานป้องกันตนเองจากการตกเป็นเหยื่อ นายคารมแนะนำให้ใช้วิธีตรวจสอบการไปทำงานต่างประเทศที่ถูกกฎหมาย ดังนี้:

  1. กรมการจัดหางาน: ใช้บริการของกรมฯ โดยไม่ต้องเสียค่าบริการ นายจ้างจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่จำเป็น เช่น ค่าวีซ่าและค่าทำหนังสือเดินทาง
  2. บริษัทจัดหางานที่ได้รับอนุญาต: เลือกใช้บริการจากบริษัทที่ได้รับอนุญาตให้จัดส่งแรงงานไปต่างประเทศอย่างถูกต้อง โดยต้องเสียค่าบริการตามอัตราที่กฎหมายกำหนด
  3. นายจ้างพาลูกจ้างไปทำงาน: หากนายจ้างมีบริษัทในต่างประเทศที่ได้รับอนุญาต ก็สามารถพาลูกจ้างไปทำงานได้
  4. ไปทำงานด้วยตัวเอง: หากหางานได้เองและต้องการเดินทางไปต่างประเทศ ต้องแจ้งให้กรมการจัดหางานทราบ
  5. ฝึกงานต่างประเทศ: หากนายจ้างต้องการส่งไปฝึกงานในต่างประเทศ ต้องแจ้งการเดินทางให้กรมการจัดหางานทราบล่วงหน้า

ท้ายที่สุดนายคารมเน้นย้ำให้ผู้หางานตรวจสอบรายชื่อบริษัทจัดหางานที่ได้รับอนุญาตจากกรมการจัดหางานผ่านเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกหลอกลวงและเสียหายจากมิจฉาชีพ