รัฐบาลไทยได้เริ่มโอนเงินสนับสนุนจำนวน 10,000 บาทให้กับกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ภายใต้โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเฟส 2 เพื่อช่วยเหลือและกระตุ้นการใช้จ่ายภายในประเทศ โดยการโอนเงินจะดำเนินการผ่านบัญชีธนาคารที่ผูกพร้อมเพย์กับเลขประจำตัวประชาชน ซึ่งจะมีผู้ได้รับสิทธิ์รวมกว่า 3.02 ล้านคน

การโอนเงินในครั้งนี้

การโอนเงินในวันที่ 27 มกราคม 2568 นั้น จะเป็นการโอนเข้าสู่บัญชีธนาคารของผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนไว้เรียบร้อย ซึ่งทำให้การสนับสนุนทางการเงินนี้สามารถเข้าสู่มือผู้ที่มีสิทธิ์ได้รับเงินอย่างรวดเร็วและง่ายดาย โดยมุ่งหวังให้ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีกำลังซื้อในตลาด

หากการโอนเงินไม่สำเร็จ

สำหรับผู้ที่ไม่สามารถรับเงินได้ในครั้งแรก ระบบจะดำเนินการให้ผู้ที่ไม่ประสบความสำเร็จได้รับเงินอีก 3 ครั้ง ดังนี้:

  • ครั้งที่ 1 วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2568 โดยต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์ภายในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568
  • ครั้งที่ 2 วันที่ 28 มีนาคม 2568 โดยต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์ภายในวันที่ 25 มีนาคม 2568
  • ครั้งที่ 3 วันที่ 28 เมษายน 2568 โดยต้องผูกบัญชีพร้อมเพย์ภายในวันที่ 23 เมษายน 2568

หากผ่านการจ่ายเงินทั้ง 3 ครั้งแล้วยังไม่สำเร็จ จะถือว่าผู้สูงอายุไม่ประสงค์จะรับเงินจากโครงการนี้

ตรวจสอบสิทธิ์ได้ง่ายๆ

ผู้สูงอายุสามารถตรวจสอบสิทธิ์ได้จากแอพพลิเคชั่น “ทางรัฐ” ที่สามารถดาวน์โหลดและใช้งานได้ทั้งในระบบ Android และ iOS ซึ่งจะช่วยให้ผู้ที่มีสิทธิ์สามารถทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการรับเงินอย่างรวดเร็ว

สำหรับผู้ที่ตรวจสอบแล้วพบว่าไม่ได้รับสิทธิ์ หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับผลการตรวจสอบ สามารถติดต่อสอบถามหรือยื่นอุทธรณ์ได้ที่หมายเลข 1111 ซึ่งบริการนี้จะเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้การตรวจสอบสิทธิ์และการรับเงินเป็นไปอย่างรวดเร็วและโปร่งใส

การช่วยเหลือผู้สูงอายุในระยะยาว

รัฐบาลไทยคาดหวังว่าโครงการนี้จะเป็นการช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีกำลังซื้อจำกัดและมีรายได้ไม่มาก โดยเฉพาะในสถานการณ์เศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคต่างๆ เงินสนับสนุนนี้จะช่วยให้ผู้สูงอายุมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และสามารถใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้สะดวกมากยิ่งขึ้น

โครงการนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ครอบคลุมทั้งกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ว่างงาน และผู้ที่ต้องการการช่วยเหลือในช่วงเวลาที่ท้าทายนี้ หวังว่าโครงการจะช่วยกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยในตลาดและเพิ่มความคล่องตัวให้กับเศรษฐกิจไทยได้ในที่สุด

ผู้ที่ต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการสามารถติดตามข่าวสารได้จากช่องทางต่างๆ เช่น เว็บไซต์ของรัฐบาล หรือแอพพลิเคชั่น "ทางรัฐ" ที่อัปเดตข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการโอนเงินและสิทธิ์ต่างๆ ตลอดจนการยื่นอุทธรณ์สิทธิ์ หากมีปัญหาหรือข้อสงสัยใดๆ