วันนี้ (9 ก.พ. 2568) คนไทย 5 คนที่ได้รับการปล่อยตัวจากกาซา เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทยแล้ว โดยพวกเขาได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากครอบครัวและผู้แทนรัฐบาลไทย ซึ่งประกอบด้วยนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และนายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน

เมื่อการตรวจคนเข้าเมืองเสร็จสิ้น ตัวประกันทั้ง 5 คนได้ออกจากอาคารผู้โดยสารและทันทีที่เห็นครอบครัวของตนต่างก็เข้ามากอดกันด้วยความดีใจ บางคนถึงกับหลั่งน้ำตาไม่สามารถระงับความรู้สึกได้ ขณะที่นายมาริษและนางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตอิสราเอลประจำประเทศไทย ได้เข้าพูดคุยกับทั้งตัวประกันและครอบครัว

นายมาริษได้กล่าวในระหว่างการแถลงข่าวว่า การที่ได้เห็นภาพครอบครัวพบหน้ากันหลังจากหลายปีที่ไม่ได้เจอเป็นเรื่องที่มีความหมายอย่างยิ่ง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จของกระบวนการที่ดำเนินการร่วมกันระหว่างกระทรวงต่างประเทศ, กระทรวงแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงขอบคุณรัฐบาลอิสราเอลที่ช่วยเหลือในการปล่อยตัวทั้ง 5 คน

โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศยังได้กล่าวว่า ความสำคัญของวันนี้คือการเห็นครอบครัวทุกคนกลับมารวมตัวกันอีกครั้ง หลังจากที่แทบทุกครอบครัวไม่ได้พบหน้ากันมาหลายปี พร้อมทั้งยืนยันว่ารัฐบาลจะดูแลพี่น้องชาวไทยที่ทำงานในต่างประเทศให้สามารถมีชีวิตที่ดีและมีความสุข รวมทั้งให้ความสำคัญกับสุขภาพจิตของคนไทยที่เดินทางกลับ

ในขณะที่ปลัดกระทรวงแรงงานกล่าวขอบคุณทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง พร้อมย้ำว่ารัฐบาลจะติดตามและดูแลสิทธิประโยชน์ของคนไทยทั้ง 5 คนต่อไป และยังเชื่อว่าทุกคนจะสามารถปรับตัวเข้าสู่สังคมและชีวิตปกติได้ในไม่ช้า

ตัวแทนหนึ่งในตัวประกัน กล่าวขอบคุณทุกหน่วยงานที่มีส่วนช่วยเหลือจนทำให้พวกเขากลับมาแผ่นดินเกิดได้ พร้อมทั้งเผยความรู้สึกซาบซึ้งที่ได้รับการช่วยเหลือจนถึงวันนี้

การกลับมาครั้งนี้ยังเป็นสัญญาณสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง โดยทุกฝ่ายต่างยืนยันว่าจะไม่หยุดยั้งการช่วยเหลือจนกว่าคนไทยทุกคนจะกลับสู่บ้านเกิดอย่างสมบูรณ์ รวมถึงการนำร่างของผู้เสียชีวิตกลับมาด้วย

ทั้งนี้ รัฐบาลไทยได้ตั้งใจจะพัฒนาแรงงานที่เดินทางไปทำงานในต่างประเทศให้มีศักยภาพในการสร้างอาชีพใหม่ และช่วยสร้างความสามารถในการประกอบการของคนไทยในอิสราเอล ขณะเดียวกันจะคำนึงถึงสุขภาพจิตของแรงงานที่กลับมาเพื่อการฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์