เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568 เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจได้ทำการจับกุมชาวเมียนมาจำนวน 118 คน ที่หลบหนีจากความรุนแรงและสงครามภายในประเทศ เพื่อเข้ามาทำงานในประเทศไทย โดยการจับกุมเกิดขึ้นในพื้นที่ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีการลักลอบเข้ามาของแรงงานต่างด้าวเป็นประจำ

การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นจากการลาดตระเวนของกองกำลังสุรสีห์ กองพลทหารราบที่ 9 พล.ร.9 โดยหน่วยทหารเฉพาะกิจ ฉก.ลาดหญ้า ร.29 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.134 และฝ่ายปกครองในพื้นที่ อ.สังขละบุรี โดยเจ้าหน้าที่ได้พบกลุ่มแรงงานต่างด้าวซ่อนตัวอยู่บริเวณชายป่าบนเกาะใกล้วัดจมน้ำ หมู่ 1 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มักจะมีการลักลอบข้ามแดนจากเมียนมามา

จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า กลุ่มแรงงานเหล่านี้หลบหนีจากความรุนแรงและความไม่สงบภายในประเทศเมียนมา ซึ่งเกิดจากการปะทะกันระหว่างทหารและกลุ่มต่อต้านรัฐบาล พวกเขาตัดสินใจหนีออกจากประเทศเพื่อหางานทำในไทย และปรารถนาหาชีวิตที่ปลอดภัยกว่าในประเทศที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

ผู้ถูกจับกุมทั้งหมดอ้างว่า พวกเขาถูกนายหน้าชาวเมียนมาช่วยเหลือในการเดินทางเข้ามายังประเทศไทย โดยในระหว่างทาง พวกเขาต้องจ่ายเงินให้กับนายหน้าเมื่อถึงปลายทาง ซึ่งทำให้แรงงานเหล่านี้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากและเสี่ยงต่อการถูกจับกุม

เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการส่งตัวผู้ต้องหาทั้งหมดไปยัง สภ.สังขละบุรี เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยตั้งข้อหาลักลอบเข้าเมืองและทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจับกุมในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ที่ตึงเครียดในเมียนมา และปัญหาของการหลบหนีจากความไม่สงบที่ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากต้องเดินทางข้ามแดนมาทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน

เหตุการณ์นี้ยังเป็นการเตือนให้เห็นถึงการดำเนินการที่เข้มงวดของเจ้าหน้าที่ไทยในการป้องกันการลักลอบเข้าเมืองและจัดการกับปัญหาผู้อพยพผิดกฎหมาย ซึ่งอาจเป็นปัญหาที่เพิ่มขึ้นหากสถานการณ์ในเมียนมายังคงตึงเครียดต่อไป

ในขณะเดียวกันการหลบหนีจากสงครามและความไม่สงบในเมียนมายังสะท้อนถึงสภาพความยากลำบากของประชาชนที่ต้องเผชิญกับความรุนแรงและการกดขี่ ซึ่งทำให้ต้องตัดสินใจหาหนทางรอดชีวิตด้วยการหลบหนีข้ามแดนไปยังประเทศที่สงบสุขกว่า แม้ว่าจะต้องเผชิญกับความเสี่ยงต่างๆ ระหว่างการเดินทาง