มะม่วงสดจากไทยได้รับความนิยมอย่างมากในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งมีความต้องการผลไม้สดคุณภาพสูงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านการบริโภคสดและการใช้ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น เครื่องดื่มและขนมหวาน ประเทศที่มีความต้องการมะม่วงสดจากไทยสูง ได้แก่ มาเลเซีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

ในมาเลเซีย มะม่วงสดจากไทยได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย โดยเฉพาะในหมู่ผู้บริโภคที่ชื่นชอบผลไม้สดและเครื่องดื่มปั่นต่าง ๆ เช่น Mango Shake ที่ได้รับความนิยมในกลุ่มคนวัยรุ่นและคนทำงาน นอกจากนี้ยังมีการนำมะม่วงไปใช้ในเมนูขนมหวานและอาหารอื่น ๆ ที่มีความนิยมในท้องตลาด ซึ่งมะม่วงสดไทยถือเป็นหนึ่งในวัตถุดิบที่มีคุณภาพสูงและรสชาติหวานอร่อยที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้อย่างดี

สำหรับในญี่ปุ่น ความนิยมในมะม่วงสดไทยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากกระแสรักสุขภาพที่ได้รับความนิยมในสังคมญี่ปุ่น การรับประทานผลไม้สดเพื่อสุขภาพกำลังได้รับความสนใจ และมะม่วงสดจากไทยถือเป็นหนึ่งในผลไม้ที่มีรสชาติหวานหอมและเป็นที่ชื่นชอบของชาวญี่ปุ่น นอกจากนี้ มะม่วงยังถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมขนมหวานและของหวานต่าง ๆ ที่กำลังได้รับความนิยมในตลาดญี่ปุ่น ซึ่งเปิดโอกาสให้มะม่วงไทยเป็นหนึ่งในวัตถุดิบสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างความหลากหลายให้กับอุตสาหกรรมอาหารญี่ปุ่น

นายพูนพงษ์ ผู้แทนจากภาครัฐกล่าวว่า ตลาดมะม่วงสดไทยในเกาหลีใต้ยังมีศักยภาพในการขยายตัวได้อย่างมาก ถึงแม้ว่าปัจจุบันเกาหลีใต้จะอนุญาตให้นำเข้าผลไม้จากไทยได้เพียง 6 ชนิด ได้แก่ มะม่วง มังคุด ทุเรียน กล้วย มะพร้าว และสับปะรด แต่ผลไม้ไทย โดยเฉพาะมะม่วง มังคุด และทุเรียน ได้รับความนิยมจากชาวเกาหลีใต้ที่คุ้นเคยกับรสชาติและคุณภาพของผลไม้ไทย ผ่านทางสื่อโซเชียล และการเดินทางของนักท่องเที่ยวที่เคยไปเยือนประเทศไทย

การรักษามาตรฐานคุณภาพและความสดใหม่ของมะม่วงไทยเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและขยายตลาดให้เติบโตไปในอนาคต หากไทยสามารถรักษามาตรฐานและเสริมสร้างความเชื่อมั่นได้ ก็จะช่วยเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดในเกาหลีใต้และตลาดอื่น ๆ ในเอเชีย รวมถึงสามารถส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศอื่น ๆ ที่มีความต้องการมะม่วงสดคุณภาพสูง

นอกจากนี้ ไทยยังอยู่ระหว่างการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ (Economic Partnership Agreement) กับเกาหลีใต้ ซึ่งหากสำเร็จ ก็จะช่วยลดภาษีและเพิ่มโอกาสในการส่งออกผลไม้จากไทยได้อย่างมาก การลดภาษีจะช่วยให้ผลไม้ไทยมีราคาที่แข่งขันได้มากขึ้นในตลาดต่างประเทศ และสามารถขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผู้บริโภคที่มีความสนใจในผลิตภัณฑ์จากไทย

มะม่วงไทยได้รับการขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) แล้วถึง 12 ชนิด ได้แก่ มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองพิษณุโลก มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองบางคล้า มะม่วงน้ำดอกไม้คุ้งบางกระเจ้า มะม่วงน้ำดอกไม้สระแก้ว มะม่วงเบาสงขลา มะม่วงน้ำดอกไม้สีทองบ้านโหล๋น มะม่วงยายกล่ำนนทบุรี มะม่วงน้ำดอกไม้สมุทรปราการ มะม่วงมันหนองแซงสระบุรี มะม่วงเขียวเสวยแปดริ้ว มะม่วงขายตึกแปดริ้ว และมะม่วงแรดแปดริ้ว ซึ่งการได้รับ GI ถือเป็นการรับรองคุณภาพและความแตกต่างของมะม่วงไทยที่สามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคในต่างประเทศ โดยมะม่วง GI ของไทยจะช่วยเพิ่มมูลค่าและความเป็นเอกลักษณ์ให้กับสินค้า

การประชาสัมพันธ์มะม่วง GI ของไทยผ่านเมนูอาหารและการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ จะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความรู้จักให้กับมะม่วงไทยในตลาดต่างประเทศ อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นที่ผลิตมะม่วง เช่น การพัฒนาเกษตรกรให้สามารถผลิตมะม่วงที่มีคุณภาพสูงและสามารถส่งออกไปยังตลาดต่างประเทศได้อย่างต่อเนื่อง

การขยายตลาดมะม่วงสดไทยจึงไม่เพียงแต่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างไทยและประเทศคู่ค้าต่าง ๆ ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีในการนำเสนอสินค้าคุณภาพสูงของไทยให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก