ในวันที่ 6 มีนาคม 2568 นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ได้โทรศัพท์หารือกับดาโตะ เซอรี อันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ขณะกำลังเยือนสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี โดยทั้งสองฝ่ายได้เน้นถึงความสำคัญในการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศในการรับมือกับปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโก-ลก และการส่งเสริมโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานและเศรษฐกิจ

นายกรัฐมนตรีมาเลเซียได้แสดงความขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้ความช่วยเหลือในหลายด้านทั้งการจัดการน้ำท่วมและการพัฒนาความร่วมมือทางด้านพลังงานและการค้าการลงทุน ซึ่งเป็นการสานต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างสองประเทศมาอย่างยาวนาน การสนับสนุนการแก้ปัญหาน้ำท่วมเป็นหนึ่งในประเด็นที่ทั้งสองฝ่ายให้ความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการร่วมมือในเรื่องของการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนที่แม่น้ำโก-ลก ซึ่งจะช่วยให้สามารถดำเนินการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน

นายกรัฐมนตรีไทยได้ยืนยันว่าไทยพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการร่วมมือกับมาเลเซียในการจัดทำแผนการแก้ปัญหาน้ำท่วมอย่างเป็นระบบ โดยขอให้มาเลเซียช่วยเร่งรัดการทำข้อตกลงในรูปแบบบันทึกความเข้าใจ (MoU) ที่จะเป็นกรอบในการกำหนดกลไกและแนวทางการบริหารจัดการลุ่มน้ำโก-ลก แบบบูรณาการ (IRBM) ซึ่งจะทำให้การแก้ปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่เกิดขึ้นอย่างยั่งยืน และสามารถลดผลกระทบที่มีต่อประชาชนในทั้งสองประเทศได้

อีกทั้งในการหารือครั้งนี้ นายกรัฐมนตรีไทยยังได้พูดถึงโครงการสร้างถนนเชื่อมต่อด่านสะเดา (สงขลา) และด่านบูกิตกายูฮิตัม (มาเลเซีย) ซึ่งเป็นโครงการสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นการค้าและการเดินทางระหว่างสองประเทศ โดยถนนเชื่อมด่านนี้คาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ในเดือนตุลาคมปีนี้ ซึ่งจะช่วยลดระยะเวลาในการเดินทาง และสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจที่ดียิ่งขึ้นทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศ

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีไทยยังได้ย้ำถึงความสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยเฉพาะการสร้างโครงข่ายการคมนาคมข้ามพรมแดน ที่จะช่วยให้การเดินทางและการค้าระหว่างไทยและมาเลเซียมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างสองประเทศในระยะยาว

การหารือครั้งนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมที่มีผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำโก-ลก แต่ยังเป็นการเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในภูมิภาคที่สามารถต่อยอดให้เกิดประโยชน์ทั้งในด้านการค้า การลงทุน และคุณภาพชีวิตของประชาชนในทั้งสองประเทศ