สงครามแร่หายาก ศึกใหม่แห่งศตวรรษที่ 21 จุดเปลี่ยนเศรษฐกิจโลกและพลังงานสะอาด
วันที่โพสต์: 26 มีนาคม 2568 08:49:33 การดู 1 ครั้ง ผู้โพสต์ baikhao
การเปลี่ยนผ่านไปสู่พลังงานสะอาดไม่เพียงแต่เป็นจุดเริ่มต้นของเทคโนโลยีที่ยั่งยืน หากแต่ยังเป็นตัวเร่งให้เกิดการแข่งขันและความขัดแย้งระหว่างประเทศมหาอำนาจที่ต้องการควบคุมห่วงโซ่อุปทานของแร่หายากและโลหะสำคัญ อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์ และโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล ต่างต้องพึ่งพาแร่ลิเธียม โคบอลต์ ทองแดง และแร่หายากที่ใช้ในเซมิคอนดักเตอร์ ทำให้ทรัพยากรเหล่านี้มีมูลค่ามหาศาลและเป็นที่ต้องการอย่างยิ่ง
ความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐได้สะท้อนให้เห็นถึงสงครามแร่หายากที่กำลังก่อตัวขึ้น จีนควบคุมการผลิตและแปรรูปแร่หายากมากกว่าร้อยละ 80 ของอุปทานโลก ซึ่งกลายเป็นเครื่องมือเชิงยุทธศาสตร์ที่ใช้ต่อรองในทางเศรษฐกิจและการเมือง ขณะที่สหรัฐและยุโรปต่างพยายามกระจายแหล่งนำเข้าและลงทุนในเทคโนโลยีรีไซเคิลเพื่อลดการพึ่งพาจีน นโยบายจำกัดการส่งออกแร่ของจีนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้สร้างแรงกระเพื่อมต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีและยานยนต์ของตะวันตก
ในภูมิภาคละตินอเมริกา สามเหลี่ยมลิเธียมที่ประกอบด้วยอาร์เจนตินา โบลิเวีย และชิลี กลายเป็นเป้าหมายหลักของมหาอำนาจที่ต้องการเข้าถึงทรัพยากรสำคัญ ชิลีและโบลิเวียมีนโยบายควบคุมอุตสาหกรรมแร่ของตนเองเพื่อลดอิทธิพลของบริษัทต่างชาติ ขณะที่จีนได้ขยายอิทธิพลผ่านการเข้าซื้อกิจการเหมืองและโรงงานแปรรูป เพื่อรักษาความมั่นคงด้านวัตถุดิบสำหรับอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดของตน
แอฟริกาก็เป็นอีกสมรภูมิสำคัญ โดยเฉพาะสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกที่มีแหล่งโคบอลต์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก แต่เต็มไปด้วยปัญหาสิทธิมนุษยชน การใช้แรงงานเด็ก และความขัดแย้งภายในประเทศ การที่บริษัทยักษ์ใหญ่จากสหรัฐ ยุโรป และจีนเข้าไปลงทุนในพื้นที่เหล่านี้ ก่อให้เกิดคำถามด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคม
นอกเหนือจากการขุดแร่บนบก บริษัทบางแห่งเริ่มสำรวจแหล่งทรัพยากรใต้มหาสมุทรแปซิฟิก โดยหวังจะขุดนิกเกิล โคบอลต์ และทองแดงจากก้นทะเล ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อระบบนิเวศ หลายประเทศเรียกร้องให้มีการควบคุมการทำเหมืองใต้ทะเลอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันผลกระทบระยะยาวต่อสิ่งแวดล้อม
การแข่งขันในอุตสาหกรรมนี้ไม่ใช่เพียงแค่ระหว่างประเทศ แต่ยังรวมถึงบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Tesla, Apple และ General Motors ที่ต้องการเข้าถึงแหล่งทรัพยากรของตนเองเพื่อลดความเสี่ยงด้านซัพพลายเชน Elon Musk เคยกล่าวว่าหากการขาดแคลนลิเธียมเป็นอุปสรรค Tesla อาจลงทุนในเหมืองของตนเอง ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการควบคุมทรัพยากรในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด
แนวทางแก้ปัญหาที่เป็นไปได้คือการพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิลแบตเตอรี่เพื่อนำโลหะหายากกลับมาใช้ใหม่ บริษัทอย่าง Redwood Materials และ Li-Cycle กำลังลงทุนในกระบวนการรีไซเคิลที่สามารถลดความจำเป็นในการขุดแร่ใหม่ อีกทางเลือกหนึ่งคือ Biomining ที่ใช้จุลินทรีย์สกัดแร่จากดิน ซึ่งช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
แม้ว่าเทคโนโลยีเหล่านี้ยังอยู่ในช่วงพัฒนา แต่ก็แสดงให้เห็นถึงแนวทางที่อุตสาหกรรมพลังงานสะอาดอาจมุ่งไปในอนาคต หากไม่มีมาตรการรองรับที่เหมาะสม สงครามแย่งชิงทรัพยากรเหล่านี้อาจนำไปสู่ความขัดแย้งที่รุนแรงขึ้น ซึ่งไม่ได้แตกต่างจากสงครามน้ำมันในอดีต ประเทศที่ต้องพึ่งพาแร่หายากจำเป็นต้องมีนโยบายกระจายความเสี่ยง และลงทุนในเทคโนโลยีที่สามารถลดการพึ่งพาทรัพยากรดิบจากต่างประเทศ เพื่อให้การเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดเกิดขึ้นอย่างยั่งยืนและเป็นธรรม
แท็ก: สงครามแร่หายาก