สถานการณ์ตลาดน้ำมันดิบโลก ผลกระทบจากการคว่ำบาตรและการเปลี่ยนแปลงในอุปทาน
วันที่โพสต์: 27 มีนาคม 2568 09:41:07 การดู 1 ครั้ง ผู้โพสต์ baikhao
รายงานสถานการณ์ตลาดน้ำมันดิบโลก
เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2568 หรือเมื่อคืนนี้ตามเวลาในประเทศไทย ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ เพิ่มขึ้น 77 เซ็นต์ หรือคิดเป็น 1.05% ปิดที่ 73.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ขณะที่ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียต (WTI) เพิ่มขึ้น 65 เซ็นต์ หรือ 0.94% ปิดที่ 69.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ในช่วงการซื้อขาย ราคาน้ำมันดิบในทั้งสองตลาดนี้ได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 1 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่สะท้อนถึงความเคลื่อนไหวในตลาดพลังงานโลก ล่าสุด สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงาน (EIA) ได้เปิดเผยข้อมูลว่า คลังสำรองน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากการเร่งผลิตของโรงกลั่นน้ำมันในประเทศ
EIA รายงานว่า คลังน้ำมันดิบ ของสหรัฐฯ ลดลง 3.3 ล้านบาร์เรล โดยเหลือปริมาณ 433.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 มีนาคม ซึ่งต่ำกว่าคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าอยู่ที่ 956,000 บาร์เรล
ในเวลาเดียวกัน การซื้อขายน้ำมันจากเวเนซุเอลา เริ่มได้รับผลกระทบจากการคุกคามของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ออกคำสั่งให้เรียกเก็บภาษีการนำเข้าน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลาในอัตรา 25% ซึ่งทำให้การส่งออกน้ำมันจากเวเนซุเอลาลดลง
นักวิเคราะห์ กล่าวว่า การคว่ำบาตรน้ำมันจากเวเนซุเอลาอาจส่งผลให้การส่งออกของเวเนซุเอลาลดลงถึง 35% ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันในประเทศ โดยอาจมีการหยุดการผลิตน้ำมันได้ถึง 400,000 บาร์เรลต่อวัน
นอกจากนี้ การคว่ำบาตรน้ำมันจากอิหร่าน ของสหรัฐฯ ยังคงมีผลกระทบอย่างต่อเนื่อง ซึ่ง Rystad Energy ได้คาดการณ์ว่า กลุ่มโอเปกพลัส อาจเพิ่มการผลิตน้ำมันเพื่อชดเชยการขาดแคลนจากการคว่ำบาตรที่อาจเกิดขึ้นกับอิหร่าน โดยไม่ทำให้ราคาน้ำมันผันผวนเกินไป
ในส่วนของ จีน และ อินเดีย นักวิเคราะห์มองว่า ประเทศเหล่านี้อาจหันไปซื้อน้ำมันจาก รัสเซีย ซึ่งได้รับผลกระทบจากการคว่ำบาตรแทนการซื้อจากเวเนซุเอลา เนื่องจากความเสี่ยงจากมาตรการทางการค้าของสหรัฐฯ
ตลาดน้ำมันกำลังเผชิญกับความตึงเครียดจากปัจจัยต่างๆ ทั้งการคว่ำบาตรทางการค้าจากสหรัฐฯ ที่มีผลต่อการส่งออกน้ำมันจากเวเนซุเอลาและอิหร่าน รวมทั้งผลกระทบจากสถานการณ์ในรัสเซียที่อาจทำให้ตลาดน้ำมันโลกเกิดการปรับตัวในระยะยาว
แท็ก: ตลาดน้ำมันดิบ