SCC พลิกกำไรแรงไตรมาสแรกปี 68 บล.ลิเบอเรเตอร์ชี้ผลประกอบการดีกว่าคาด หนุนราคาหุ้นมีอัพไซด์
วันที่โพสต์: 3 พฤษภาคม 2568 09:19:16 การดู 2 ครั้ง ผู้โพสต์ baikhao
บริษัทหลักทรัพย์ลิเบอเรเตอร์ออกบทวิเคราะห์ล่าสุด คาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 ของ บมจ.ปูนซิเมนต์ไทย หรือ SCC ว่าจะมีแนวโน้มดีกว่าที่ประเมินไว้เดิมอย่างมีนัยสำคัญ โดยระบุว่า SCC จะมีกำไรสุทธิ 1,099 ล้านบาท เทียบกับผลขาดทุนสุทธิ 512 ล้านบาทในไตรมาส 4 ปี 2567 ซึ่งถือเป็นการพลิกฟื้นจากจุดต่ำสุด และยังสูงกว่าประมาณการของบริษัทถึง 12% ขณะเดียวกันยังออกมาดีกว่าตลาดคาดการณ์ไว้มาก
บทวิเคราะห์โดย นารี อภิเศวตกานต์ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์อาวุโส ระบุว่า ธุรกิจหลักทั้ง 3 กลุ่มของ SCC ได้แก่ ธุรกิจซีเมนต์ ปิโตรเคมี และบรรจุภัณฑ์ ต่างมีพัฒนาการในเชิงบวก โดยเฉพาะกลุ่มซีเมนต์ที่ได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมก่อสร้างในประเทศ ประกอบกับการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการปรับลดส่วนลดราคาสินค้ากับลูกค้ารายใหญ่ ส่งผลให้ราคาขายสุทธิเพิ่มขึ้น และผลักดัน EBITDA margin ให้ขยับขึ้นจาก 12% ในไตรมาสก่อนหน้าเป็น 18% ในไตรมาสนี้
ในขณะที่กลุ่มปิโตรเคมีแม้จะยังเผชิญแรงกดดันจากการหยุดเดินเครื่องของโรงงาน LSP ซึ่งส่งผลให้ยอดขายรวมลดลงราว 6% จากไตรมาสก่อน แต่ก็มีสัญญาณเชิงบวกจากราคาวัตถุดิบที่ลดลง ส่งผลให้ขาดทุนจาก LSP ลดลงจากไตรมาสก่อนหน้า โดยขาดทุนสุทธิลดลงเหลือ 2,948 ล้านบาท จากเดิม 3,266 ล้านบาท นอกจากนี้ SCC ยังระบุว่า หากส่วนต่างราคาระหว่าง HDPE กับแนฟทากลับมาแตะระดับ 400 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และสามารถทรงตัวได้ราว 1-2 เดือน โรงงาน LSP ก็จะสามารถกลับมาเดินเครื่องผลิตได้อีกครั้ง ซึ่งจะช่วยลดภาระขาดทุนในช่วงถัดไป และอาจถึงจุดคุ้มทุนในปี 2569
สำหรับกลุ่มบรรจุภัณฑ์ ก็เริ่มเห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจน ปริมาณการขายปรับตัวเพิ่มขึ้นควบคู่ไปกับการควบคุมต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะ Fajar บริษัทย่อยในต่างประเทศที่สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต จนทำให้ EBITDA ขยายตัวอย่างชัดเจน
นักวิเคราะห์จาก บล.ลิเบอเรเตอร์ ยังมองว่า ท่ามกลางความไม่แน่นอนจากปัจจัยภายนอก เช่น ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และสงครามการค้าโลก SCC ยังคงเร่งปรับโครงสร้างต้นทุนและจัดการค่าใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันและประสิทธิภาพการดำเนินงาน ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนผลประกอบการในระยะยาว
ปัจจุบันราคาหุ้น SCC ซื้อขายอยู่ที่ระดับ P/BV ราว 0.5 เท่า ซึ่งถือว่ามีส่วนลดเมื่อเทียบกับมูลค่าทางบัญชีอย่างมาก นักวิเคราะห์ประเมินว่า หากแนวโน้มผลประกอบการยังคงฟื้นตัวต่อเนื่องและปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เริ่มคลี่คลาย มีโอกาสที่ตลาดจะทยอยปรับเพิ่มประมาณการกำไรของ SCC ในปีนี้ และอาจส่งผลให้ราคาหุ้นมีอัพไซด์ในระยะกลางถึงยาว
แท็ก: SCC