วันที่ 19 มิถุนายน 2568
สถานการณ์การเมืองไทย-กัมพูชาเริ่มเดือด หลังคลิปเสียงความยาว 9.30 วินาที ถูกเผยแพร่ในโลกออนไลน์ เป็นการสนทนาระหว่าง “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรีไทย กับ “สมเด็จฮุน เซน” ผู้นำทางจิตวิญญาณของกัมพูชา ซึ่งมีประเด็นอ่อนไหวเกี่ยวกับความมั่นคงบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา

ใจกลางของคลิป คือถ้อยคำที่ “แพทองธาร” เอ่ยถึง “พลโทบุญสิน พาดกลาง” แม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ว่าเป็น “ฝ่ายตรงข้าม” ซึ่งจุดกระแสวิจารณ์ทันทีในสภาและโซเชียลมีเดีย พร้อมเรียกร้องให้มีการชี้แจงต่อสาธารณชนว่าเกิดอะไรขึ้น

ขณะเดียวกัน ฮุน เซน เดินหน้าโจมตีผ่านสื่อสังคมออนไลน์อย่างเปิดเผย โดยโพสต์ข้อความเหน็บแนมระบบการเมืองไทยว่า “มีเพียงรัฐบาลกัมพูชาเท่านั้นที่มีอำนาจตัดสินใจ รวมถึงอำนาจควบคุมกองทัพ ไม่เหมือนประเทศไทย”
ข้อความดังกล่าวถูกตีความว่าเป็นการส่งสัญญาณทางการเมือง เพื่อทำลายความน่าเชื่อถือของรัฐบาลไทยในช่วงเวลาสำคัญ

นักวิเคราะห์เชื่อว่า ฮุน เซน กำลังใช้คลิปเสียงและแรงกดดันทางการทูตเป็นเครื่องมือกดดันให้ไทยยอมรับกระบวนการทางกฎหมายระหว่างประเทศ กรณีพิพาทพื้นที่ชายแดน ซึ่งกัมพูชาได้ยื่นต่อศาลโลกไว้ก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะกรณีพื้นที่ช่องบกและกลุ่มปราสาทโบราณที่ยังคงเป็นข้อขัดแย้งเรื้อรัง

ท่าทีแข็งกร้าวของกัมพูชานี้ ถูกมองว่าเป็นความพยายาม “ทดสอบ” ความสามารถของรัฐบาลใหม่ไทย ภายใต้การนำของ “แพทองธาร” ที่เพิ่งรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ไม่นาน และยังอยู่ระหว่างการสร้างฐานอำนาจ

ด้านฝ่ายค้านในไทยไม่รอช้า ตั้งคำถามถึงความเหมาะสมในการสื่อสารกับต่างประเทศ และเตรียมเคลื่อนไหวผ่านกลไกในสภา ขณะที่กรรมาธิการด้านความมั่นคงแห่งวุฒิสภา เตรียมเรียกนายกรัฐมนตรีเข้าชี้แจงในเร็ววันนี้

“ปณิธาน วัฒนายากร” นักวิชาการด้านความมั่นคง ระบุว่า ฮุน เซน อาจไม่พอใจต่อท่าทีของรัฐบาลไทยในช่วงที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นมาตรการปิดด่าน การเข้มงวดเรื่องบ่อนคาสิโน หรือแม้แต่เสียงวิจารณ์จากนักเคลื่อนไหวทางการเมืองฝั่งไทย ซึ่งสะสมจนเกิดแรงกระแทกในระดับผู้นำ

“การเปิดคลิปเสียงครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้แพทองธารเสียหาย แต่ยังสะท้อนว่าฝ่ายกัมพูชาไม่แคร์ความไว้เนื้อเชื่อใจจากผู้นำประเทศอื่น และพร้อมเปิดหน้าเล่นเกมบีบทางการทูตอย่างชัดเจน” ปณิธาน กล่าว

สถานการณ์ในครั้งนี้ จึงไม่ใช่แค่เรื่องของคำพูดในคลิปเสียง แต่เป็นสงครามจิตวิทยา และการชิงพื้นที่อำนาจทางภูมิรัฐศาสตร์ ที่ผู้นำทั้งสองกำลังเผชิญ

ในขณะที่ฝ่ายไทยต้องเร่งกู้ความน่าเชื่อถือ ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากประชาชน และแรงกดดันจากสื่อมวลชน ความท้าทายของ “นายกรัฐมนตรีแพทองธาร” ยังอีกยาวไกล และทุกก้าวต่อจากนี้จะถูกจับตามองทุกฝีเท้า

ชายแดนร้อน...การเมืองเดือด และเก้าอี้ผู้นำที่ยังไม่มั่นคง อาจเป็นบททดสอบสำคัญที่สุดของผู้นำหญิงคนแรกของไทย