บลูมเบิร์ก รายงาน (24 มิ.ย.) ราคาน้ำมันดิบร่วงและตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวขึ้น หลังประกาศหยุดยิงชั่วคราวระหว่างอิสราเอล-อิหร่าน
วันที่โพสต์: 24 มิถุนายน 2568 09:35:31 การดู 1 ครั้ง ผู้โพสต์ baikhao
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) ร่วงลงแรงกว่า 6% ในช่วงเช้าของการซื้อขายในตลาดเอเชีย หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศหยุดยิงชั่วคราวระหว่างอิสราเอลและอิหร่านผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย Truth Social ของเขา ซึ่งสร้างความหวังว่าความขัดแย้งในตะวันออกกลางซึ่งเป็นหนึ่งในภูมิภาคสำคัญของตลาดพลังงานโลกอาจคลี่คลายลงได้
คำประกาศดังกล่าวมีขึ้นหลังจากอิหร่านยิงขีปนาวุธไปยังฐานทัพอากาศสหรัฐในกาตาร์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้จะเป็นการโจมตีเชิงสัญลักษณ์และฐานทัพได้รับการอพยพล่วงหน้าแล้ว ดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้นเกือบ 1% ในวันจันทร์ และราคาน้ำมันดิบปรับลดลงต่ำกว่า 70 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
ในวันอังคาร ดัชนี S&P 500 ฟิวเจอร์เพิ่มขึ้นอีก 0.5% ขณะที่ตลาดหุ้นในญี่ปุ่นและออสเตรเลียเปิดตลาดในแดนบวก ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในกลุ่ม G10 และตลาดพันธบัตรรัฐบาลทั่วโลกปรับตัวลดลง
คริส เวสตัน หัวหน้าฝ่ายวิจัย Pepperstone Group ในเมลเบิร์น ระบุว่า “ตลาดได้ประเมินสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐฯ กับตะวันออกกลางใหม่แล้ว หลังทรัมป์ส่งสัญญาณว่า ถึงเวลาที่ตลาดควรกลับมาให้ความสำคัญกับปัจจัยพื้นฐานอย่างเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ ภาษี และงบประมาณการใช้จ่าย”
แม้จะยังไม่มีการตอบรับอย่างเป็นทางการจากอิหร่านหรืออิสราเอลต่อข้อตกลงหยุดยิง ทรัมป์ระบุว่าข้อตกลงนี้ได้รับการเห็นชอบจากทั้งสองฝ่าย ขณะที่การโจมตีฐานทัพในกาตาร์ของอิหร่านนั้น “เบามาก” และได้รับแจ้งล่วงหน้าจากเตหะรานเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหายรุนแรง
ด้านการเมืองภูมิภาค รัฐบาลจีนยังคงเสริมความเข้มงวดในการควบคุมสารเคมีที่ใช้ผลิตยาเสพติดอย่างเฟนทานิล พร้อมแสดงท่าทีวิจารณ์การโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน แต่ก็ยินดีเข้าร่วมความพยายามระหว่างประเทศในการฟื้นฟูสันติภาพในตะวันออกกลาง
อย่างไรก็ตาม การผลิตน้ำมันจากตะวันออกกลางยังดำเนินไปตามปกติ โดยไม่มีสัญญาณการหยุดชะงักในการขนส่งผ่านช่องแคบฮอร์มุซ ขณะที่การส่งออกน้ำมันของอิหร่านจากอ่าวเปอร์เซียกลับเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมา
ในส่วนของค่าเงิน ดอลลาร์สหรัฐลดลงต่อเนื่อง ดัชนี Bloomberg Dollar Spot ลดลง 0.2% ขณะที่ดอลลาร์ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์แข็งค่าขึ้นประมาณ 0.3% ฌอน คัลโลว์ นักวิเคราะห์จาก InTouch Capital Markets ชี้ว่า “ดอลลาร์สหรัฐซึ่งได้รับประโยชน์จากความขัดแย้ง ได้เริ่มพลิกกลับทิศทาง นักลงทุนพร้อมมองข้ามความกังวลเกี่ยวกับเส้นทางความขัดแย้งในอนาคต”
นักกลยุทธ์จากธนาคาร Morgan Stanley เตือนว่า แม้ข่าวความขัดแย้งจะสร้างความผันผวนในระยะสั้น แต่ประวัติศาสตร์แสดงให้เห็นว่าหลังเหตุการณ์ผ่านไป ราคาหุ้นจะฟื้นตัวขึ้นโดยเฉลี่ย 2% ใน 1 เดือน 3% ใน 3 เดือน และถึง 9% ใน 12 เดือนถัดไป
ในขณะเดียวกัน นักลงทุนตลาดพันธบัตรจับตาการเคลื่อนไหวของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่คาดว่าจะประกาศลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งในปี 2025 ตามที่ได้สัญญาไว้ โดยประธานเฟด เจอโรม พาวเวล เตรียมให้ปากคำต่อรัฐสภาสองครั้งในสัปดาห์นี้ เพื่อชี้แจงทิศทางนโยบายการเงิน โดยเฉพาะการคงอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อยจนถึงเดือนกันยายน ท่ามกลางแรงกดดันจากทรัมป์ที่ต้องการลดต้นทุนการกู้ยืม
แท็ก: ราคาน้ำมันดิบ บลูมเบิร์ก