กลุ่มฮามาสแห่งปาเลสไตน์ออกแถลงการณ์เมื่อวันศุกร์ว่า ได้ตอบสนองต่อข้อเสนอหยุดยิงในฉนวนกาซาที่ได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐฯ ด้วยท่าทีเชิงบวก โดยเป็นความคืบหน้าล่าสุดในการเจรจายุติความรุนแรงในภูมิภาค หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ระบุว่า อิสราเอลยินยอมต่อ "เงื่อนไขสำคัญ" เพื่อเดินหน้าแผนหยุดยิงชั่วคราวเป็นเวลา 60 วัน

อย่างไรก็ตาม ความเห็นจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงของปาเลสไตน์ซึ่งใกล้ชิดกับฮามาส เปิดเผยว่ายังมีข้อกังวลหลายด้าน อาทิ การส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม การเปิดช่องทางผ่านด่านราฟาห์สู่ฝั่งอียิปต์ และตารางเวลาการถอนกำลังทหารอิสราเอลออกจากฉนวนกาซา ซึ่งสะท้อนถึงอุปสรรคสำคัญที่ทั้งสองฝ่ายยังต้องเจรจาให้ชัดเจน

ในด้านอิสราเอล สำนักงานของนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ออกแถลงการณ์เมื่อค่ำวันเสาร์ระบุว่า ได้รับแจ้งเกี่ยวกับข้อเสนอที่มีการเปลี่ยนแปลงจากฝั่งฮามาสผ่านทางกาตาร์ ซึ่ง "ไม่สามารถยอมรับได้" และไม่ตรงตามแนวทางที่อิสราเอลให้การสนับสนุน

ถึงแม้จะไม่เห็นด้วยกับการปรับเปลี่ยนข้อเสนอ แต่อิสราเอลยังคงส่งตัวแทนเข้าร่วมการหารือในกาตาร์ เพื่อดำเนินการเจรจาเพิ่มเติมโดยมีเป้าหมายหลักคือ การนำตัวประกันชาวอิสราเอลที่ถูกจับไว้โดยฮามาสกลับคืน

นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮู ซึ่งมีกำหนดพบกับประธานาธิบดีทรัมป์ที่กรุงวอชิงตันในวันจันทร์ ย้ำจุดยืนว่า ฮามาสจะต้องถูกปลดอาวุธโดยสมบูรณ์ ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ฮามาสยังคงปฏิเสธ

วิกฤตในฉนวนกาซารุนแรงขึ้นตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2566 เมื่อกลุ่มฮามาสเปิดฉากโจมตีทางใต้ของอิสราเอล ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,200 ราย และมีการจับตัวประกัน 251 คน ตามข้อมูลจากทางการอิสราเอล

ฝ่ายอิสราเอลได้เปิดปฏิบัติการทางทหารตอบโต้ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตในกาซามากกว่า 57,000 คน ตามรายงานจากกระทรวงสาธารณสุขในฉนวนกาซา พร้อมกับวิกฤตด้านมนุษยธรรมที่ทวีความรุนแรง ทั้งการอพยพครั้งใหญ่ การขาดแคลนอาหารและน้ำสะอาด และข้อกล่าวหาเรื่องอาชญากรรมสงคราม ซึ่งอิสราเอลได้ปฏิเสธมาโดยตลอด

ขณะที่นานาชาติยังคงจับตาความเคลื่อนไหวของทั้งสองฝ่ายอย่างใกล้ชิด ความหวังในการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงยังคงต้องเผชิญกับความท้าทายหลายด้านท่ามกลางวิกฤตที่ยังไม่จบสิ้น

ที่มา : reuters