กรุงเทพฯ 10 กรกฎาคม 2568 – ประเทศไทยยังเผชิญสภาพอากาศแปรปรวนอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงนี้มีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะภาคเหนือและภาคตะวันออก อันเป็นผลจากหย่อมความกดอากาศต่ำที่ปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ยังพัดปกคลุมประเทศไทยและทะเลอันดามัน ส่งผลให้หลายจังหวัดเสี่ยงเกิดภัยพิบัติจากฝนสะสม

กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยง ได้แก่ เชียงราย น่าน แพร่ บึงกาฬ สกลนคร นครพนม จันทบุรี และตราด ให้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักที่อาจทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลาดเชิงเขา ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มต่ำ พร้อมแนะนำให้ติดตามข่าวสารและประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานรัฐอย่างใกล้ชิด

นอกจากฝนตกหนักแล้ว พื้นที่ชายฝั่งและทะเลก็ยังคงมีคลื่นลมแรง โดยเฉพาะใน ทะเลอันดามันตอนบน ที่มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และอาจสูงเกินกว่า 2 เมตรในบริเวณที่เกิดฝนฟ้าคะนอง ขณะที่ อ่าวไทยตอนบน และทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1–2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาจึงขอให้ชาวเรือโดยสารและเรือประมงใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ และหลีกเลี่ยงการออกเรือในช่วงที่มีพายุฝนหรือคลื่นลมแรง

แนวโน้มฝนเพิ่มขึ้น 11–13 กรกฎาคม

ในช่วงวันที่ 11–13 กรกฎาคมนี้ จะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และประเทศเวียดนาม โดยจะมีหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนตามแนวร่องดังกล่าว เสริมให้ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ยังคงมีฝนตกหนักต่อเนื่องในบางพื้นที่ คาดว่าจะเพิ่มความเสี่ยงภัยจากฝนสะสมมากขึ้นอีกในหลายจังหวัด

รายงานสภาพอากาศประจำภาค (วันนี้ – พรุ่งนี้ 12.00 น.)

  • ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน และแพร่ อุณหภูมิต่ำสุด 23–26 องศาฯ สูงสุด 29–34 องศาฯ
  • ภาคอีสาน ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนหนักบางแห่ง เช่น บึงกาฬ สกลนคร อุดรธานี อุบลราชธานี
  • ภาคกลาง ฝนฟ้าคะนอง 60% เช่น กาญจนบุรี ราชบุรี และนครสวรรค์
  • ภาคตะวันออก ฝนตก 70% มีฝนหนักถึงหนักมากบริเวณจันทบุรี และตราด คลื่นสูง 1–2 เมตร
  • ภาคใต้ฝั่งตะวันออก ฝนฟ้าคะนอง 40% โดยเฉพาะที่เพชรบุรี สุราษฎร์ธานี และสงขลา
  • ภาคใต้ฝั่งตะวันตก ฝน 60% ของพื้นที่ มีฝนหนักที่พังงา ระนอง และภูเก็ต คลื่นสูงเฉลี่ย 2 เมตร
  • กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุดประมาณ 34 องศาฯ

คำแนะนำจากทางการ

  • ประชาชนควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย เช่น เชิงเขา ลำห้วย และบริเวณน้ำท่วมซ้ำซาก
  • ผู้ใช้รถควรระวังถนนลื่น การมองเห็นลดลง และควรตรวจสอบเส้นทางก่อนเดินทาง
  • ชาวเรือควรตรวจสอบสภาพอากาศก่อนออกทะเล และหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีฝนฟ้าคะนอง

ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.tmd.go.th หรือสายด่วนกรมอุตุนิยมวิทยา โทร. 1182 ตลอด 24 ชั่วโมง.