Isuzu DRAGON MAX การกลับมาของตำนาน Isuzu TFR 1988 ในรูปแบบ Restomod ที่ล้ำสมัย
วันที่โพสต์: 25 มีนาคม 2568 01:34:51 การดู 15 ครั้ง ผู้โพสต์ baikhao
ในงาน Motor Show 2025 ที่จัดขึ้น ณ Impact Challenger Hall 1-3 เมืองทองธานี ปีนี้ มีไฮไลต์สำคัญที่สร้างกระแสฮือฮาให้กับวงการรถกระบะไทย และได้รับความสนใจจากบรรดาสาวกรถซิ่งและคนรักรถเก่าคลาสสิก นั่นคือการเผยโฉม Isuzu DRAGON MAX ซึ่งเป็นโครงการ Restomod ที่นำ Isuzu Faster Z (TFR 1988) มาอัปเกรดใหม่ทั้งหมด โดยยังคงจิตวิญญาณของรุ่นเดิมเอาไว้ แต่ปรับแต่งให้เข้ากับยุคสมัย ผสานเทคโนโลยีล้ำสมัย พร้อมขุมพลังใหม่ที่ให้สมรรถนะสุดเร้าใจ การออกแบบครั้งนี้สะท้อนถึงแนวคิด "ความยิ่งใหญ่ในอดีต ผสานนวัตกรรมแห่งอนาคต" ซึ่งทำให้ DRAGON MAX ไม่ใช่เพียงแค่รถกระบะเก่าแต่งใหม่ แต่เป็นการสร้างมาตรฐานใหม่ของการรีสโตร์และปรับแต่งรถในแบบฉบับที่ลงตัว


สิ่งแรกที่สะดุดตาเมื่อมอง Isuzu DRAGON MAX คือดีไซน์ภายนอกที่ยังคงเอกลักษณ์ของ Isuzu TFR 1988 เอาไว้ครบถ้วน ทั้งเส้นสายตัวถังที่เรียบง่ายแต่แข็งแกร่ง ไฟหน้าทรงเหลี่ยมที่เป็นเอกลักษณ์ของยุค 80s ถูกอัปเกรดใหม่ให้มี ไฟ DRL LED รูปทรงเหลี่ยมเข้ากับดีไซน์ตัวรถอย่างลงตัว กันชนหน้าดีไซน์ใหม่ให้ดูสปอร์ตขึ้น พร้อมช่องดักอากาศที่ออกแบบมาเพื่อช่วยระบายความร้อนและเสริมความดุดันให้กับตัวรถ ฝากระโปรงหน้ามีการปรับดีไซน์เพื่อให้เข้ากับเครื่องยนต์ใหม่ที่ติดตั้งอยู่ภายใน


ด้านข้างของตัวรถยังคงความเรียบง่ายแต่ทรงพลัง ด้วยชุดโป่งล้อที่ออกแบบมาให้ดูแนบเนียนเข้ากับตัวถัง เสริมความแข็งแกร่งด้วยล้อแม็กสีดำขนาดใหญ่ที่ให้ลุคดุดันและพร้อมลุยทุกเส้นทาง นอกจากนี้ยังลดระดับความสูงของตัวรถลงเพื่อให้ได้ฟีลลิ่งของรถสปอร์ตมากขึ้น ด้านท้ายถูกปรับแต่งให้มีความทันสมัยขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ไฟท้ายถูกเปลี่ยนเป็นแบบ LED ทรงแนวตั้ง ที่ให้ความรู้สึกโมเดิร์น แต่ยังคงสัดส่วนของตัวรถแบบดั้งเดิมเอาไว้ ฝากระบะท้ายเรียบง่ายแต่ดูมีพลัง ด้วยเส้นสายที่คมชัด และโลโก้ Isuzu ที่ถูกจัดวางไว้อย่างลงตัว
เมื่อเปิดประตูเข้าไปภายในห้องโดยสาร จะพบกับการออกแบบที่เปลี่ยนโฉมไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง พวงมาลัยใหม่แบบสปอร์ต ที่ออกแบบให้กระชับมือมากขึ้น ตกแต่งด้วยวัสดุที่ให้ความรู้สึกพรีเมียม พร้อมโลโก้ Isuzu อยู่ตรงกลาง แดชบอร์ดถูกแทนที่ด้วย มาตรวัดดิจิทัลเต็มรูปแบบ ที่สามารถแสดงผลข้อมูลของตัวรถได้อย่างครบถ้วน รวมถึงแรงม้า แรงบิด อุณหภูมิ และโหมดการขับขี่ ที่สำคัญคือการติดตั้ง หน้าจออินโฟเทนเมนต์ขนาดใหญ่แบบแนวตั้ง ซึ่งรองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto สามารถควบคุมระบบต่างๆ ของรถได้ผ่านหน้าจอนี้ ทำให้การขับขี่สะดวกและล้ำสมัยมากขึ้น
วัสดุที่ใช้ภายในห้องโดยสารถูกเลือกมาอย่างพิถีพิถัน ใช้โทนสีดำเป็นหลัก ตัดด้วยการเดินตะเข็บสีขาวที่ช่วยเพิ่มความหรูหรา เบาะที่นั่งถูกออกแบบใหม่ให้รองรับสรีระได้ดีขึ้น มีการใช้หนังแท้และหนังกลับเพื่อให้ความรู้สึกพรีเมียมและสปอร์ตไปพร้อมกัน นอกจากนี้ยังมีการติดตั้ง ระบบเสียงพรีเมียม ที่ช่วยให้การเดินทางเป็นไปอย่างเพลิดเพลิน
สิ่งที่ทำให้ Isuzu DRAGON MAX น่าตื่นเต้นยิ่งขึ้นก็คือขุมพลังใหม่ที่ติดตั้งเข้ามาแทนที่เครื่องยนต์เดิม โดยใช้ เครื่องยนต์ดีเซล 2.2 Ddi MaxForce ที่ผ่านการปรับจูนพิเศษ ให้พละกำลังสูงสุด 220 แรงม้า และแรงบิดมหาศาลถึง 550 นิวตันเมตร ซึ่งมากกว่าเครื่องยนต์ในยุค 80s หลายเท่าตัว การส่งกำลังเป็นแบบเกียร์ธรรมดา 6 สปีด ที่ให้การตอบสนองที่รวดเร็วและเร้าใจมากขึ้น ระบบช่วงล่างได้รับการปรับแต่งใหม่ทั้งหมด เพื่อให้สามารถรองรับกำลังเครื่องยนต์ที่เพิ่มขึ้น และให้การขับขี่ที่มั่นใจมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นบนถนนทางเรียบหรือการขับขี่แบบสปอร์ต


โครงการ Restomod ของ Isuzu DRAGON MAX ไม่ใช่เพียงแค่การปรับแต่งรถเก่าให้กลับมาวิ่งได้อีกครั้ง แต่เป็นการออกแบบใหม่ทั้งหมดให้สอดคล้องกับยุคปัจจุบัน ในขณะที่ยังคงรักษาเอกลักษณ์และเสน่ห์ของ Isuzu TFR 1988 เอาไว้ได้อย่างลงตัว นี่คือรถที่สะท้อนถึงการผสมผสานระหว่างอดีตและอนาคตได้อย่างสมบูรณ์แบบ และเป็นตัวอย่างที่ดีของแนวทางการรีสโตร์รถเก่าให้กลายเป็นรถที่ใช้งานได้จริงในปัจจุบัน
สำหรับใครที่สนใจสามารถไปสัมผัสตัวจริงของ Isuzu DRAGON MAX ได้ที่บูธ Isuzu ภายในงาน Motor Show 2025 ตั้งแต่วันที่ 26 มีนาคม - 6 เมษายน 2025 ที่ Impact Challenger Hall 1-3 เมืองทองธานี นี่เป็นโอกาสดีที่จะได้เห็นการพัฒนาและปรับแต่งรถกระบะคลาสสิกให้กลายเป็นรถที่พร้อมใช้งานในยุคสมัยใหม่ และอาจเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักแต่งรถและคนรักรถเก่าที่อยากนำรถของตัวเองมา Restomod ในแบบของตัวเอง
แท็ก: Isuzu Isuzu DRAGON