Intel Capital ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทลงทุนที่มีชื่อเสียงในวงการเทคโนโลยี และเคยเป็นแขนขาของยักษ์ใหญ่ด้านเซมิคอนดักเตอร์ Intel ตั้งแต่ปี 1991 ได้ประกาศแผนการแยกตัวออกจากบริษัทแม่ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการทุนของบริษัทเทคโนโลยีที่มีประวัติยาวนาน

Mark Rostick รองประธานอาวุโสและผู้จัดการใหญ่ของ Intel Capital กล่าวว่าการแยกตัวนี้จะสร้างโอกาสใหม่ให้กับบริษัทในการดำเนินธุรกิจ และยังคงรักษาความสามารถในการลงทุนในสตาร์ทอัพเทคโนโลยีที่มีศักยภาพอย่าง AI, คลาวด์, และอุปกรณ์ต่างๆ โดยยังคงความสัมพันธ์กับ Intel ในฐานะนักลงทุนหลัก

Rostick ได้ร่วมงานกับ Intel Capital มาตั้งแต่ปี 1999 และในระหว่างการทำงาน เขาได้เห็นบริษัทลงทุนในสตาร์ทอัพมากกว่า 1,800 บริษัท และประสบความสำเร็จในการออกจากสตาร์ทอัพมากกว่า 700 รายการ โดยมูลค่าการลงทุนทั้งหมดกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์

การตัดสินใจแยกตัวออกจาก Intel ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับบริษัทนี้ แต่การพูดคุยเกี่ยวกับแผนการดังกล่าวเริ่มจริงจังในปี 2024 โดยเฉพาะหลังจากการประสบความสำเร็จในการลงทุนใน Astera Labs ซึ่งได้ทำการเปิดตัว IPO ในปี 2024 และมีมูลค่าตลาดสูงถึง 5.5 พันล้านดอลลาร์

การแยกตัวของ Intel Capital จะเกิดขึ้นในไตรมาสที่สามของปี 2025 และคาดว่าจะสร้างบริษัทอิสระใหม่ที่ยังคงเน้นการลงทุนในเทคโนโลยีล้ำสมัยและจะระดมทุนจากนักลงทุนภายนอกหลังการแยกตัว

แม้การเปลี่ยนแปลงนี้จะมีผลกระทบบางประการกับทีมงานของ Intel Capital โดยมีผู้บริหารบางคนที่ได้ออกจากบริษัท แต่ Rostick ยืนยันว่าบริษัทจะยังคงดำเนินงานตามปกติ พร้อมทั้งมุ่งหน้าสู่โอกาสใหม่ๆ และการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต

ที่มา : techcrunch