เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2025 หุ้นของบริษัทผู้ผลิตชิปจากทั้งในสหรัฐและต่างประเทศปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง รับแนวโน้มการเติบโตของเทคโนโลยี AI ที่คาดว่าจะขยายตัวอย่างรวดเร็วในปี 2025 โดยเฉพาะจากการพัฒนาและขยายตัวของการใช้งานปัญญาประดิษฐ์และเซิร์ฟเวอร์ AI ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในภาคธุรกิจต่างๆ

หุ้นของ Nvidia ซึ่งเป็นผู้นำในตลาดชิปกราฟิกและ AI เพิ่มขึ้น 5% ทำให้บริษัทได้อันดับสูงสุดในกลุ่มบริษัทผู้ผลิตชิปสหรัฐ ตามมาด้วย AMD และ Micron Technology ที่ปรับตัวขึ้น 4% และ 12% ตามลำดับ ขณะที่ Broadcom และ Qualcomm ก็เพิ่มขึ้นราว 3% ขณะเดียวกันหุ้นของผู้ผลิตชิปต่างประเทศอย่าง TSMC (Taiwan Semiconductor Manufacturing) เพิ่มขึ้น 5% และ ASML ผู้ผลิตเครื่องจักรสำหรับการผลิตชิปที่มีบทบาทสำคัญในกระบวนการผลิตชิปก็ดีดตัวขึ้น 8%

ในตลาดเอเชีย, หุ้นของบริษัทซัพพลายเออร์อุปกรณ์ผลิตชิปของ Nvidia อย่าง Tokyo Electron Ltd., Advantest Corp., Disco Corp., และ Lasertec Corp. ต่างปรับขึ้นไม่ต่ำกว่า 6% ส่วน Foxconn หรือ Hon Hai Precision Industry Co. ซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญในการประกอบชิปของ Nvidia ก็ขยับขึ้น 4.1% โดยได้แรงหนุนจากผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2024 ที่เกินคาด

ผลประกอบการที่น่าประทับใจของ Foxconn แสดงให้เห็นถึงการเติบโตจากความต้องการผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับคลาวด์และเซิร์ฟเวอร์ AI โดยเฉพาะในส่วนของการผลิตชิปที่ใช้ในการประมวลผล AI ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณเชิงบวกที่ทำให้การลงทุนในกลุ่มนี้มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต

บริษัท Foxconn ได้รายงานยอดขายในไตรมาส 4 ปี 2024 สูงสุดในประวัติศาสตร์ช่วงไตรมาส 4 ที่ 2.132 ล้านล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ (ประมาณ 64,750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา และสูงกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 2.07 ล้านล้านดอลลาร์ไต้หวันใหม่ นอกจากนี้ยังมีการคาดการณ์ว่าในไตรมาสแรกของปี 2025 ยอดขายของบริษัทจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากการเติบโตในส่วนของผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ AI และคลาวด์

นักลงทุนยังคาดหวังการกล่าวปาฐกถาของ Jensen Huang ซีอีโอของ Nvidia ในงาน CES 2025 ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศข่าวเกี่ยวกับการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ ของ Nvidia ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและตลาด

การประกาศล่าสุดจาก Microsoft ที่เตรียมลงทุนจำนวน 80,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐใน Data Center และ AI ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยหนุนหุ้นของกลุ่มผู้ผลิตชิป เพราะมีการคาดการณ์ว่าเงินลงทุนนี้จะช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการใช้งาน AI ในระดับโลก ซึ่งจะช่วยเพิ่มความต้องการในการผลิตชิปและฮาร์ดแวร์ที่รองรับเทคโนโลยี AI ในอนาคต

การเติบโตของหุ้นในกลุ่มผู้ผลิตชิปยังสะท้อนถึงการฟื้นตัวของตลาด S&P 500 โดยเฉพาะ Nvidia ที่เพิ่มขึ้นถึง 171% ในปี 2023 แม้ว่าบางนักลงทุนจะมีความกังวลเกี่ยวกับผลตอบแทนที่สูงจากการลงทุนใน AI ซึ่งอาจทำให้เกิดการเทขายในบางช่วงเวลา แต่ภาพรวมของตลาดชิปในปี 2025 ยังมีแนวโน้มสดใสจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในภาคธุรกิจต่างๆ เช่น การใช้งาน AI การประมวลผลข้อมูล และเซิร์ฟเวอร์ AI ที่ทำให้การลงทุนในกลุ่มนี้ยังคงน่าสนใจและมีศักยภาพสูงในระยะยาว

ที่มา: Market InsiderBloomberg