iPhone 17 อาจใช้ระบบระบายความร้อนด้วย Vapor Chamber ในทุกรุ่น พร้อมฟีเจอร์ใหม่ที่คาดว่าจะเปิดตัว
วันที่โพสต์: 18 มกราคม 2568 20:01:41 การดู 8 ครั้ง ผู้โพสต์ admin
ข่าวลือล่าสุดจากประเทศจีนเผยว่า Apple เตรียมเปิดตัวระบบระบายความร้อนแบบ Vapor Chamber (VC) ในรุ่น iPhone 17 ทั้งหมด รวมถึงทั้งรุ่น Pro และ non-Pro ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญจากการใช้ฮีทซิงค์ที่เคยเป็นมาตรฐานใน iPhone ทุกรุ่นมาก่อนหน้านี้ การปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ในครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อให้ iPhone 17 รองรับประสิทธิภาพการทำงานที่ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งจัดการความร้อนจากชิปเซ็ตที่มีความสามารถสูงขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Vapor Chamber คืออะไร?
Vapor Chamber หรือ ห้องระบายความร้อนด้วยไอน้ำ คือส่วนประกอบโลหะที่ถูกซีลอย่างแน่นหนาและมีของเหลวปริมาณน้อย (มักเป็นน้ำที่ปราศจากไอออน) ซึ่งจะระเหยเมื่อได้รับความร้อนจากชิปเซ็ต และไอที่เกิดขึ้นจะถูกกระจายไปทั่วผิวของห้องระบายความร้อนเพื่อช่วยกระจายความร้อนและทำให้การระบายความร้อนจากอุปกรณ์มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะช่วยลดการเกิด thermal throttling หรือการลดความเร็วของชิปเซ็ตเนื่องจากความร้อนสูง
iPhone 17 อาจมาพร้อมการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญ
ก่อนหน้านี้ Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ที่มีชื่อเสียงจาก Apple เคยเผยว่า iPhone 17 Pro Max จะเป็นรุ่นเดียวที่ได้รับระบบระบายความร้อนด้วย Vapor Chamber แต่จากรายงานใหม่ที่มีข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งข่าวในจีนกลับยืนยันว่า iPhone 17 ทั้งทุกรุ่น รวมถึงรุ่น non-Pro ก็จะใช้เทคโนโลยีนี้ ซึ่งอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและการจัดการความร้อนให้กับ iPhone ทุกโมเดลที่วางขายในปีนี้
ความคาดหวังเกี่ยวกับหน้าจอความถี่สูง
นอกจากการเปลี่ยนแปลงด้านการระบายความร้อนแล้ว รายงานยังระบุว่า iPhone 17 รุ่น non-Pro อาจได้รับหน้าจอที่รองรับอัตราการรีเฟรชสูง (High-refresh rate) ซึ่งก่อนหน้านี้มีการคาดการณ์ว่า iPhone รุ่นพื้นฐานยังคงจะมีอัตราการรีเฟรชที่ต่ำกว่า แต่ในปีนี้ Apple อาจจะอัพเกรดเพื่อแข่งขันกับคู่แข่งในตลาด โดยคาดว่า iPhone 17 จะมาพร้อมหน้าจอที่รองรับอัตราการรีเฟรชสูงถึง 90Hz หรือ 120Hz ซึ่งจะช่วยให้การใช้งานที่เน้นความลื่นไหลและการตอบสนองที่ดีขึ้น
แม้ว่าข่าวลือเหล่านี้จะยังไม่ถูกยืนยันอย่างเป็นทางการจาก Apple แต่หลายฝ่ายคาดว่า iPhone 17 จะเปิดตัวในช่วงปลายปี 2025 โดยจะมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้นมากมาย ซึ่งจะเป็นอีกก้าวหนึ่งที่สำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยีของ Apple และจะได้รับการจับตามองจากผู้ใช้และนักพัฒนาอย่างใกล้ชิด