กรมอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่า ในช่วงวันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ประเทศไทยหลายพื้นที่จะเผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวน โดยเฉพาะในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในบางจุด ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดน้ำหลากเฉียบพลัน ดินถล่ม และน้ำท่วมขังได้ในบางพื้นที่ โดยเฉพาะในบริเวณที่ลาดชันหรือใกล้แหล่งน้ำ

ประชาชนควรหลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีฝนตกต่อเนื่องและพื้นที่ที่มีประวัติน้ำท่วมซ้ำซาก ขณะที่เกษตรกรควรวางแผนรับมือ ด้วยการปรับปรุงระบบระบายน้ำในพื้นที่เพาะปลูก เพื่อป้องกันความเสียหายต่อพืชผลและสัตว์เลี้ยง

อิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศร่วมกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมทะเลอันดามันและอ่าวไทย ยังคงส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกต่อเนื่องและคลื่นลมในทะเลแรง โดยเฉพาะทะเลอันดามันตอนบนที่คลื่นสูงเฉลี่ยราว 2 เมตร และในบริเวณที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนองอาจมีคลื่นสูงเกินกว่า 2 เมตร ชาวเรือควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือ และควรงดออกจากฝั่งในกรณีของเรือเล็ก

สภาพอากาศรายภูมิภาค

  • ภาคเหนือ: ฝนฟ้าคะนองครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 80% และมีโอกาสเกิดฝนหนักมากในหลายจังหวัด เช่น เชียงใหม่ ลำปาง แพร่ และน่าน อุณหภูมิระหว่าง 23–34°C
  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: ฝนกระจาย 70% ของพื้นที่ มีฝนหนักในหลายจังหวัด อุณหภูมิอยู่ที่ 23–33°C
  • ภาคกลาง: ฝนครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 80% โดยเฉพาะในจังหวัดลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา อุณหภูมิระหว่าง 24–35°C
  • ภาคตะวันออก: มีฝนฟ้าคะนองใน 70% ของพื้นที่ โดยมีฝนหนักมากในบางพื้นที่ชายฝั่ง อุณหภูมิ 24–34°C คลื่นทะเลสูงกว่า 2 เมตรบริเวณพายุฝน
  • ภาคใต้ฝั่งตะวันออก: ฝนตกประมาณ 60% ของพื้นที่ โดยมีฝนหนักในบางแห่ง เช่น ประจวบฯ และสุราษฎร์ฯ อุณหภูมิ 22–34°C
  • ภาคใต้ฝั่งตะวันตก: ฝนครอบคลุมถึง 80% ของพื้นที่ ฝนหนักถึงหนักมากใน จ.ระนอง พังงา ภูเก็ต คลื่นทะเลสูง 1–2 เมตร อุณหภูมิ 23–31°C
  • กรุงเทพฯ และปริมณฑล: มีฝนราว 70% ของพื้นที่ พร้อมฝนหนักเป็นบางแห่ง อุณหภูมิ 25–34°C

ประชาชนควรติดตามข้อมูลจากทางราชการอย่างใกล้ชิด และเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์อากาศที่อาจเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว