กรุงเทพฯ วันที่ 26 มิถุนายน 2568 – กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศพยากรณ์อากาศฉบับล่าสุด ระบุว่า ตลอดช่วง 24 ชั่วโมงข้างหน้านี้ ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในภาคตะวันออกที่คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ เสี่ยงเกิดอุทกภัยเฉียบพลัน ดินถล่ม และน้ำป่าไหลหลาก พร้อมทั้งเตือนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้เฝ้าระวังและติดตามข้อมูลจากทางราชการอย่างใกล้ชิด

สถานการณ์ฝนตกที่เกิดขึ้นในขณะนี้ เป็นผลมาจากร่องมรสุมที่พาดผ่านภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน รวมทั้งอิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่มีกำลังปานกลาง พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ส่งผลให้เกิดความแปรปรวนของสภาพอากาศในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ที่มีโอกาสเกิดฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60–80 ของพื้นที่ พร้อมมีฝนตกหนักบางแห่ง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน

รายงานสภาพอากาศรายภาค

ภาคเหนือ
มีฝนฟ้าคะนองประมาณร้อยละ 70 ของพื้นที่ โดยคาดว่าจะมีฝนตกหนักในบางแห่ง เช่น จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน แพร่ และอุตรดิตถ์ โดยอุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ 24–25 องศาเซลเซียส สูงสุด 34–36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 5–15 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนครอบคลุมร้อยละ 80 ของพื้นที่ โดยมีโอกาสเกิดฝนตกหนักในหลายจังหวัด เช่น เลย หนองคาย อุดรธานี สกลนคร นครพนม นครราชสีมา และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 23–25 องศาเซลเซียส สูงสุด 32–36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10–20 กม./ชม.

ภาคกลาง
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ โดยจะเกิดฝนหนักบางแห่งในพื้นที่จังหวัดชัยนาท ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอยุธยา และกาญจนบุรี อุณหภูมิต่ำสุด 24–27 องศาเซลเซียส สูงสุด 33–36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10–25 กม./ชม.

ภาคตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 70 ของพื้นที่ โดยคาดว่าหลายจังหวัดในภูมิภาคนี้ เช่น นครนายก ฉะเชิงเทรา ระยอง จันทบุรี และตราด จะเผชิญฝนตกหนักถึงหนักมากในบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 23–25 องศาเซลเซียส สูงสุด 30–35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1–2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นจะสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้ฝั่งตะวันออก
มีฝนฟ้าคะนองประมาณร้อยละ 30 ของพื้นที่ โดยจะเกิดฝนในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรี ชุมพร สงขลา และนราธิวาส อุณหภูมิต่ำสุด 23–25 องศาเซลเซียส สูงสุด 33–35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15–35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร หากออกห่างจากฝั่งคลื่นจะสูง 1–2 เมตร และอาจมากกว่า 2 เมตรในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

ภาคใต้ฝั่งตะวันตก
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 30 ของพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดระนองและพังงา อุณหภูมิต่ำสุด 22–24 องศาเซลเซียส สูงสุด 31–34 องศาเซลเซียส โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร และมากกว่า 2 เมตรในจุดที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนอันดามันตอนล่างคลื่นสูง 1–2 เมตร ลมตะวันตกเฉียงใต้ความเร็ว 15–35 กม./ชม.

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
มีฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิต่ำสุด 25–27 องศาเซลเซียส สูงสุด 33–35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10–20 กม./ชม.


คำเตือนและข้อควรระวัง

กรมอุตุนิยมวิทยาขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย โดยเฉพาะภาคตะวันออก ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ซึ่งอาจก่อให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่มต่ำ

สำหรับประชาชนที่ประกอบอาชีพในทะเล หรือมีความจำเป็นต้องเดินเรือ ขอให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะในช่วงที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นลมอาจรุนแรงกว่าปกติ และขอให้ติดตามข่าวสารจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดผ่านช่องทางต่าง ๆ รวมถึงระบบเตือนภัยพิบัติ


📍 ข้อมูลโดย: กรมอุตุนิยมวิทยา
📆 ประกาศเมื่อ: วันที่ 26 มิถุนายน 2568 เวลา 06.00 น.
ครอบคลุมช่วงเวลา: 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้

ติดตามพยากรณ์อากาศและข่าวเตือนภัยได้ทางเว็บไซต์ www.tmd.go.th หรือสายด่วน 1182 ตลอด 24 ชั่วโมง