เมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2565 เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจราชมนู กองร้อยทหารราบที่ 421 และหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 ได้ทำการลาดตระเวนตามแนวชายแดนในพื้นที่อำเภอพบพระ จังหวัดตาก ซึ่งเป็นพื้นที่สำคัญที่เชื่อมต่อกับประเทศเมียนมา และสามารถสกัดจับขบวนการลักลอบส่งน้ำมันข้ามประเทศได้สำเร็จ โดยสามารถยึดน้ำมันได้ถึง 800 ลิตร จากถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร จำนวน 4 ถัง

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่พบกลุ่มคนต้องสงสัย 3 คน กำลังลักลอบผลักถังน้ำมันลงสู่แม่น้ำเมย ซึ่งเป็นแม่น้ำที่ทำหน้าที่เป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างประเทศไทยและประเทศเมียนมา เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจสอบและพบว่าเป็นนายเจษฏาและนางอารายา สองคนไทย และนางสาวทูนู่นพร สัญชาติเมียนมา ที่กำลังเตรียมลำเลียงน้ำมันไปยังฝั่งประเทศเมียนมา

จากการสอบสวนเบื้องต้น ผู้ต้องสงสัยทั้งสามคนได้ให้การรับสารภาพว่า พวกเขากำลังลักลอบขนน้ำมันจากประเทศไทยไปยังฝั่งประเทศเมียนมา เพื่อไปขายให้กับกลุ่มผู้ค้าในประเทศนั้น โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดสถานการณ์ตึงเครียดการขาดแคลนน้ำมันจากการที่รัฐบาลไทยได้มีคำสั่งให้ตัดการส่งน้ำมันไปยังเมียนมา ทำให้เกิดการลักลอบนำเข้าน้ำมันในลักษณะดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมผู้ต้องสงสัยพร้อมของกลางทั้งหมดและส่งตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายที่สถานีตำรวจภูธรพบพระ ซึ่งเป็นการดำเนินการอย่างเคร่งครัดเพื่อลดปัญหาการลักลอบขนส่งสิ่งผิดกฎหมายตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา

การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความเข้มงวดของการลาดตระเวนตามแนวชายแดน โดยหน่วยงานด้านความมั่นคงได้เพิ่มมาตรการตรวจสอบอย่างเข้มงวดเพื่อป้องกันการลักลอบขนส่งน้ำมันและสินค้าผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงนี้ที่มีความกังวลเรื่องการสนับสนุนกลุ่มคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา ซึ่งมีการใช้น้ำมันและเชื้อเพลิงในการดำเนินการ

เจ้าหน้าที่ทหารได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยตามแนวชายแดน รวมถึงการทำงานร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ในการป้องกันการลักลอบขนส่งน้ำมันและสินค้าอื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของทั้งสองประเทศ พร้อมทั้งยืนยันว่าจะยังคงเข้มงวดกับการลักลอบในรูปแบบต่างๆ อย่างต่อเนื่อง

การจับกุมครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จในการร่วมมือกันของหน่วยทหารและเจ้าหน้าที่ที่ทำงานอย่างหนักเพื่อปกป้องผลประโยชน์และความมั่นคงของประเทศในด้านต่างๆ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่สถานการณ์การค้าขายข้ามชาติยังคงตึงเครียดอยู่