เกิดความเคลื่อนไหวใหญ่ในวงการฟินเทค AI เมื่อ OpenAI เข้าซื้อกิจการ Roi แอปผู้ช่วยการเงินส่วนบุคคลที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ เป้าหมายคือยกระดับ “ผู้ช่วยแบบปรับตัวได้” ให้เข้าใจผู้ใช้เป็นรายบุคคลมากขึ้น เรียนรู้พฤติกรรมทางการเงินของเรา และ “เติบโตไปพร้อมเรา” ไม่ใช่เพียงเครื่องมือรายรับ–รายจ่ายแบบเดิม ๆ อีกต่อไป
ดีลนี้สะท้อนวิสัยทัศน์ใหม่ของ OpenAI ที่ต้องการพา AI ออกจากกรอบแชตบอตทั่วไป ไปสู่ agent ส่วนตัว ที่ลงมือทำงานแทนผู้ใช้ในโลกจริงมากขึ้น โดยกรณีของ Roi โฟกัสที่การเงินส่วนบุคคล—ตั้งแต่การจัดระเบียบธุรกรรม วิเคราะห์พฤติกรรมการใช้จ่าย วางแผนเก็บออม ลงทุนตามระดับความเสี่ยง ไปจนถึงแจ้งเตือนความผิดปกติและ “แปลภาษาการเงิน” ให้เข้าใจง่ายในชีวิตประจำวัน
BREAKING 🚨: OpenAI acquired Roi, a personalised finance AI assistant app.
"The products we use every day won’t remain static, predetermined experiences. They’ll become adaptive, deeply personal companions that understand us, learn from us, and evolve with us." https://t.co/U3H845JSSm pic.twitter.com/x8C9cRvlyv— TestingCatalog News 🗞 (@testingcatalog) October 3, 2025
ด้านแนวทางผลิตภัณฑ์ คาดว่าเทคโนโลยีของ Roi จะถูกผนวกรวมเข้ากับสแต็กของ OpenAI เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ เป็นส่วนตัว (personalized) มากขึ้น เช่น การรู้บริบทจากข้อมูลธุรกรรมที่ผู้ใช้ยินยอมเชื่อมต่อ การให้คำแนะนำที่ปรับตามเป้าหมายชีวิตจริง (ซื้อบ้าน มีลูก เกษียณ) และการสรุปเชิงรุกแบบ proactive ไม่ต้องรอให้ผู้ใช้ถามก่อน ทั้งหมดวางอยู่บนหลักการยินยอมของผู้ใช้และการปกป้องข้อมูลอย่างเข้มงวด
สำหรับผู้ใช้ปลายทาง ผลลัพธ์ที่คาดหวังคือ
ภาพรวมการเงินที่เข้าใจง่ายขึ้น ผ่านสรุปอัจฉริยะและอินไซต์ที่แปลได้เป็นภาษาคน
คำแนะนำแบบลงมือทำ เช่น สร้างงบประมาณอัตโนมัติ ตั้งกฎย้ายเงินออม แจ้งเตือนบิลค้าง พร้อมปุ่มดำเนินการ
บริหารความเสี่ยง ด้วยการจับสัญญาณใช้จ่ายผิดปกติ หรือจำลองผลกระทบหากรายได้/ค่าใช้จ่ายเปลี่ยน
แผนระยะยาวส่วนบุคคล ตั้งแต่กองทุนฉุกเฉินจนถึงพอร์ตการลงทุนที่เหมาะกับโปรไฟล์ความเสี่ยง
ในมุมอุตสาหกรรม ดีลนี้ตอกย้ำเทรนด์ “AI ผู้ช่วยเฉพาะโดเมน” ที่ก้าวถัดไปจากรุ่นแชตบอตเอนกประสงค์ คือการเชื่อมต่อกับข้อมูลจริง (banking/fintech APIs) และมีเวิร์กโฟลว์ที่ปฏิบัติการได้ทันที แทนที่จะให้เพียงคำตอบเป็นข้อความ ขณะเดียวกัน โจทย์ด้านกฎระเบียบ ความเป็นส่วนตัว และความปลอดภัยของข้อมูลการเงินจะยิ่งสำคัญตั้งแต่กระบวนการขอความยินยอม การเก็บรักษา ไปจนถึงการอธิบายเหตุผลของคำแนะนำ (explainability) เพื่อให้ผู้ใช้เชื่อใจได้
แม้รายละเอียดเชิงเทคนิคและไทม์ไลน์การรวมระบบยังไม่เปิดเผยอย่างเป็นทางการ แต่สัญญาณชัดคือ OpenAI ต้องการวางรากฐาน AI ที่เป็นเพื่อนคู่คิดด้านการเงิน ซึ่งเรียนรู้จากเรา ปรับตัวตามสถานการณ์ และช่วยตัดสินใจบนข้อมูลจริงอย่างมีความรับผิดชอบ หากการผสานเทคโนโลยีสำเร็จ เราอาจได้เห็นมาตรฐานใหม่ของแอปการเงินยุค AI ที่ก้าวจาก “แอปบันทึกรายจ่าย” ไปสู่ “ผู้ช่วยการเงินที่ลงมือทำ” อย่างแท้จริงในอนาคตอันใกล้