OpenAI ประกาศเปิดตัว GPT-5.2-Codex โมเดลปัญญาประดิษฐ์ด้านการเขียนโค้ดเชิงเอเจนต์ (Agentic Coding) รุ่นล่าสุด ซึ่งถูกยกระดับมาเพื่อรองรับงานวิศวกรรมซอฟต์แวร์ระดับมืออาชีพ และการป้องกันภัยคุกคามทางไซเบอร์ในโลกแห่งความเป็นจริง โดยถือเป็นเวอร์ชันที่ทรงพลังที่สุดในตระกูล Codex ที่เคยเปิดตัวมา

GPT-5.2-Codex ถูกพัฒนาต่อยอดจาก GPT-5.2 โดยเน้นการทำงานร่วมกับสภาพแวดล้อม Codex โดยตรง เพิ่มขีดความสามารถในการจัดการโค้ดขนาดใหญ่ การปรับโครงสร้างระบบ การย้ายโค้ดทั้งโปรเจกต์ รวมถึงการทำงานระยะยาวผ่านระบบบีบอัดบริบทขั้นสูง ช่วยให้โมเดลสามารถเข้าใจโค้ดจำนวนมากได้อย่างต่อเนื่องและแม่นยำ

รองรับงานจริงมากขึ้น โดยเฉพาะบน Windows

หนึ่งในจุดเด่นของ GPT-5.2-Codex คือความสามารถในการทำงานแบบเอเจนต์ในสภาพแวดล้อมจริง ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานผ่านเทอร์มินัล การจัดการ Repository การสร้างและตรวจสอบ Pull Request ไปจนถึงการตั้งค่าเซิร์ฟเวอร์ โดยโมเดลได้รับการปรับปรุงให้ทำงานบนระบบปฏิบัติการ Windows ได้อย่างมีเสถียรภาพและเชื่อถือได้มากขึ้น

นอกจากนี้ GPT-5.2-Codex ยังมีประสิทธิภาพด้านการประมวลผลภาพที่ดีขึ้น สามารถอ่านและตีความภาพหน้าจอ แผนภาพทางเทคนิค กราฟ รวมถึงส่วนติดต่อผู้ใช้ (UI) ระหว่างการพัฒนาโค้ดได้อย่างแม่นยำ ช่วยลดภาระของนักพัฒนาในการอธิบายรายละเอียดเชิงเทคนิคซ้ำๆ

ทำสถิติระดับแนวหน้าในการทดสอบมาตรฐานอุตสาหกรรม

OpenAI ระบุว่า GPT-5.2-Codex ทำผลงานได้โดดเด่นในการทดสอบมาตรฐานสำคัญ โดยเฉพาะ SWE-Bench Pro และ Terminal-Bench 2.0 ซึ่งเป็นชุดการประเมินที่ออกแบบมาเพื่อวัดความสามารถของเอเจนต์ AI ในงานวิศวกรรมซอฟต์แวร์และการทำงานผ่านเทอร์มินัลจริง

ผลการทดสอบชี้ให้เห็นว่า GPT-5.2-Codex มีความแม่นยำสูงกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่าง GPT-5.2 และ GPT-5.1-Codex-Max อย่างชัดเจน สะท้อนถึงศักยภาพในการนำไปใช้งานจริงในระดับองค์กร

เสริมพลังงานด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์

อีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญของ GPT-5.2-Codex คือการยกระดับความสามารถด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ โดย OpenAI เปิดเผยตัวอย่างกรณีจริงที่นักวิจัยด้านความปลอดภัยสามารถใช้ Codex ค้นพบช่องโหว่ใน React Server Components ได้ถึง 3 รายการ ภายในระยะเวลาเพียงหนึ่งสัปดาห์ และได้รายงานต่อทีมพัฒนาอย่างมีความรับผิดชอบ

OpenAI ระบุว่า แม้ GPT-5.2-Codex จะยังไม่ถูกจัดให้อยู่ในระดับ “ความสามารถไซเบอร์ขั้นสูง” ตามกรอบการประเมินของบริษัท แต่แนวโน้มการพัฒนาชี้ชัดว่าโมเดล AI รุ่นถัดไปจะมีศักยภาพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจำเป็นต้องมาพร้อมมาตรการควบคุมและการใช้งานอย่างรอบคอบ

เปิดใช้งานแล้วสำหรับผู้ใช้แบบชำระเงิน พร้อมแผน API ในอนาคต

ปัจจุบัน OpenAI ได้เริ่มเปิดให้ใช้งาน GPT-5.2-Codex ผ่าน Codex CLI, ส่วนขยาย IDE, ระบบคลาวด์ และเครื่องมือตรวจสอบโค้ด สำหรับผู้ใช้ ChatGPT แบบชำระเงินทั้งหมดแล้ว ขณะเดียวกันยังมีแผนเปิดให้ใช้งานผ่าน API สำหรับบุคคลที่สามอย่างปลอดภัยในอนาคตอันใกล้

นอกจากนี้ OpenAI ยังเตรียมเปิดตัวโครงการ Trusted Access สำหรับผู้เชี่ยวชาญและองค์กรด้านความปลอดภัยไซเบอร์ที่ผ่านการตรวจสอบ เพื่อให้สามารถเข้าถึงความสามารถ AI ขั้นสูงสำหรับงานป้องกันภัยไซเบอร์เชิงรับ ภายใต้ขอบเขตและการกำกับดูแลที่เข้มงวด

ก้าวสำคัญของ AI กับโลกซอฟต์แวร์ยุคใหม่

OpenAI สรุปว่า GPT-5.2-Codex ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญของการนำ AI ขั้นสูงมาใช้งานจริงในโลกวิศวกรรมซอฟต์แวร์และความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ ช่วยให้นักพัฒนาและนักวิจัยสามารถรับมือกับโจทย์ที่ซับซ้อน ใช้เวลานาน และมีความเสี่ยงสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งวางรากฐานสำหรับการพัฒนา AI ที่ปลอดภัยและรับผิดชอบในอนาคต

ที่มา  : OpenAi