สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ศาลรัฐบาลกลางสหรัฐได้มีคำตัดสินครั้งสำคัญในคดีผูกขาดการค้าที่ถูกมองว่าใหญ่ที่สุดในรอบสามทศวรรษ โดยชี้ว่า Alphabet Inc. บริษัทแม่ของ Google มีพฤติกรรมผูกขาดตลาดการค้นหาออนไลน์อย่างผิดกฎหมาย แต่ผลลัพธ์สุดท้ายกลับไม่รุนแรงเท่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้

คำพิพากษาที่ออกเมื่อวันที่ 2 กันยายน ระบุให้ Google ต้องเปิดเผยข้อมูลการค้นหาบางส่วนแก่คู่แข่ง เช่น Microsoft, DuckDuckGo รวมถึงบริษัทหน้าใหม่ด้าน AI อย่าง OpenAI และ Perplexity เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน ศาลปฏิเสธที่จะบังคับให้ Google แยกขายเบราว์เซอร์ Chrome หรือระบบปฏิบัติการ Android ออกไป

ผู้พิพากษาอมิต เมห์ตา ยืนยันว่าจะสั่งห้าม Google ทำสัญญาผูกขาดด้านการจัดจำหน่าย แต่ยังคงอนุญาตให้บริษัทสามารถจ่ายค่าตอบแทนแก่พันธมิตร เช่น Apple ซึ่งมีข้อตกลงมูลค่าประมาณ 20,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี เพื่อคงสถานะ Google Search เป็นเครื่องมือค้นหาตั้งต้นบน iPhone ต่อไป

ฝั่ง Google แถลงชื่นชมคำตัดสิน โดยมองว่าเป็นการยอมรับความเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมจากการเข้ามาของเทคโนโลยี AI แต่ก็ยังแสดงความไม่เห็นด้วยกับข้อวินิจฉัยก่อนหน้านี้ที่กล่าวหาว่าบริษัทผูกขาด พร้อมตั้งข้อกังวลว่าการบังคับให้แบ่งปันข้อมูลอาจกระทบต่อความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน

ผลสะเทือนในตลาดการเงินปรากฏทันที หุ้น Alphabet พุ่งขึ้นกว่า 8.7% ในการซื้อขายนอกเวลา ขณะที่หุ้น Apple ก็ดีดตัวสูงสุดถึง 4.3% นักวิเคราะห์หลายรายประเมินตรงกันว่า คำตัดสินนี้เป็นผลลัพธ์ที่เบากว่าที่กังวลกันไว้มาก และถือเป็นชัยชนะเชิงกลยุทธ์ของ Google

นอกจากนี้ คำพิพากษาครั้งนี้ยังถูกจับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจกลายเป็นบรรทัดฐานสำคัญสำหรับการพิจารณาคดีผูกขาดในอนาคตกับบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Meta, Amazon หรือแม้แต่ Apple เอง

อ้างอิง: Bloomberg