สหรัฐฯ เดินเกมกดดันจีนรอบใหม่ หลังมีรายงานว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เพิกถอนใบอนุญาตที่เคยอนุญาตให้บริษัทเกาหลีใต้อย่าง Samsung Electronics และ SK Hynix ใช้อุปกรณ์การผลิตชิปรุ่นใหม่ในโรงงานที่ตั้งอยู่ในจีน การตัดสินใจครั้งนี้สร้างแรงสั่นสะเทือนต่ออุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์โลก เนื่องจากแม้โรงงานในจีนของทั้งสองบริษัทจะเน้นผลิตชิปรุ่นเก่า แต่การที่ไม่สามารถอัปเกรดหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ได้ ย่อมทำให้ความสามารถในการแข่งขันค่อยๆ ลดลงในระยะยาว ความเคลื่อนไหวนี้ถูกมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์สหรัฐฯ ที่ต้องการจำกัดขีดความสามารถของจีนในด้านการผลิตชิปสมัยใหม่ พร้อมทั้งผลักดันให้ฐานการผลิตสำคัญย้ายไปอยู่ในประเทศพันธมิตรแทน

สำหรับ Samsung และ SK Hynix นี่คือความท้าทายครั้งสำคัญ เพราะแม้พวกเขาจะมีโรงงานในหลายประเทศ แต่จีนก็ยังเป็นตลาดบริโภคใหญ่ที่ไม่อาจมองข้าม การถูกบีบให้ทำงานบนเส้นทางที่เต็มไปด้วยแรงกดดันทั้งจากสหรัฐฯ และจีน อาจทำให้การวางกลยุทธ์ซับซ้อนมากขึ้นไปอีก ขณะเดียวกัน จีนเองก็มีแนวโน้มเร่งพัฒนาเทคโนโลยีในประเทศเพื่อทดแทนการพึ่งพาต่างชาติ โดยรัฐบาลจีนคงไม่ลังเลที่จะอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อเสริมแกร่งให้ผู้ผลิตท้องถิ่นสามารถแข่งขันได้ในอนาคต

นักวิเคราะห์มองว่าหากมาตรการของสหรัฐฯ ดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง อุตสาหกรรมชิปโลกอาจต้องเผชิญกับต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นและห่วงโซ่อุปทานที่เปราะบางมากขึ้น ราคาสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ชิปเป็นหัวใจหลักย่อมได้รับผลกระทบโดยตรง และภูมิทัศน์การผลิตอาจเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง การขยายฐานการผลิตสู่ประเทศอื่นในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น เวียดนามหรือไทย อาจกลายเป็นโอกาสใหม่ที่หลายฝ่ายจับตามอง ในขณะที่การแข่งขันเชิงภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงเป็นตัวแปรหลักที่นิยามอนาคตของวงการเทคโนโลยีทั่วโลก