รัฐบาลสหรัฐอเมริกาตัดสินใจเพิกถอนใบอนุญาตพิเศษ (Validated End User – VEU) ที่เคยให้สิทธิแก่บริษัท Taiwan Semiconductor Manufacturing Company หรือ TSMC ในการส่งออกอุปกรณ์การผลิตเซมิคอนดักเตอร์และวัสดุที่เกี่ยวข้องจากผู้ผลิตในสหรัฐไปยังโรงงานในประเทศจีนโดยไม่ต้องขออนุญาตเป็นรายครั้ง การเพิกถอนครั้งนี้จะมีผลตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2025 เป็นต้นไป
การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวครอบคลุมเฉพาะโรงงาน TSMC ที่ตั้งอยู่ในเมืองหนานจิง ซึ่งถือเป็นฐานการผลิตหลักแห่งเดียวของบริษัทในจีนแผ่นดินใหญ่ โดยโรงงานแห่งนี้มีกำลังการผลิตเทคโนโลยีสูงสุดที่ระดับ 16 นาโนเมตร และมีสัดส่วนรายได้ราว 3% ของรายได้รวมทั้งบริษัท เมื่อเปรียบเทียบกับโรงงานหลักในไต้หวันที่มุ่งเน้นการผลิตชิประดับก้าวหน้าอย่าง 5 นาโนเมตร หรือแม้แต่กำลังพัฒนาเทคโนโลยี 2 นาโนเมตรในอนาคต
TSMC ระบุว่าได้รับการแจ้งอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลสหรัฐแล้ว และยืนยันว่าจะเดินหน้าหารือกับทางการเพื่อหาทางลดผลกระทบให้น้อยที่สุดต่อการดำเนินงาน ขณะเดียวกันบริษัทยังย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะรักษาเสถียรภาพห่วงโซ่อุปทาน แม้ว่าจะต้องเผชิญข้อจำกัดด้านการค้าและนโยบายระหว่างประเทศก็ตาม
นักวิเคราะห์ประเมินว่า แม้โรงงานหนานจิงจะมีบทบาทไม่ใหญ่นักต่อรายได้รวม แต่การเพิกถอนสิทธิพิเศษครั้งนี้เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่ารัฐบาลสหรัฐต้องการเร่งเข้มงวดในการควบคุมเทคโนโลยีเซมิคอนดักเตอร์ โดยเฉพาะการไหลของอุปกรณ์และวัสดุที่มีความสำคัญต่อการผลิตชิประดับก้าวหน้าไปยังจีน เพื่อจำกัดศักยภาพการแข่งขันด้านเทคโนโลยี
ก่อนหน้านี้ ซัมซุงและ SK Hynix ซึ่งมีโรงงานในจีนก็ถูกเพิกถอนใบอนุญาต VEU แบบเดียวกัน ทำให้ต้องขอใบอนุญาตส่งออกอุปกรณ์จากสหรัฐเป็นรายครั้งเช่นเดียวกัน การดำเนินการต่อเนื่องเหล่านี้ถูกมองว่าเป็นกลยุทธ์ระยะยาวของสหรัฐในการปกป้องผลประโยชน์ด้านความมั่นคงและสร้างความได้เปรียบในศึกเทคโนโลยีกับจีน
สถานการณ์ดังกล่าวจึงไม่เพียงกระทบการดำเนินงานของ TSMC ในจีนเท่านั้น แต่ยังสะท้อนภาพใหญ่ของสงครามเทคโนโลยีระหว่างสองมหาอำนาจ ที่กำลังยกระดับความเข้มข้นจากการควบคุมการค้าไปสู่การจัดระเบียบห่วงโซ่อุปทานเซมิคอนดักเตอร์โลกใหม่ ซึ่งอาจเป็นตัวกำหนดทิศทางอุตสาหกรรมในทศวรรษต่อไป
ที่มา: Bloomberg