Xiaomi 15 Series เรือธงรุ่นใหม่ของ Xiaomi เพิ่งเปิดตัวในระดับโลกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีกำหนดเปิดตัวในอินเดียวันที่ 11 มีนาคมนี้ แต่ข่าวลือเกี่ยวกับ Xiaomi 16 Series กลับเริ่มได้รับความสนใจแล้วจากแหล่งข่าววงในที่เชื่อว่า Xiaomi 16 Pro อาจจะมาพร้อมกับกรอบโลหะที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ 3D

ข้อมูลนี้ได้รับการเปิดเผยโดย Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์จาก TF Securities International ที่แชร์ผ่าน X (เดิมคือ Twitter) ซึ่งระบุว่า Xiaomi 16 Pro อาจใช้กรอบโลหะกลางที่ผลิตด้วยเทคโนโลยีการพิมพ์ 3D จากผู้ผลิตในจีน Bright Laser Technologies

ตามข้อมูลที่ได้รับ Kuo ระบุว่าโครงสร้างที่พิมพ์ 3D นี้จะมีการออกแบบเป็นช่องว่างภายใน ซึ่งไม่เพียงช่วยลดน้ำหนักของโทรศัพท์ แต่ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายความร้อนโดยไม่ทำให้ความแข็งแรงของโครงสร้างลดลง

การใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ 3D ในการผลิตกรอบสมาร์ทโฟนไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการโทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะในด้านการพัฒนาและผลิตชิ้นส่วนที่ต้องการความละเอียดสูงและความแข็งแรง ในขณะที่เทคโนโลยีนี้อาจยังไม่แพร่หลาย แต่ก็ได้เริ่มมีการนำมาใช้ในหลายๆ อุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นการผลิตชิ้นส่วนเครื่องบินหรือแม้แต่การผลิตอุปกรณ์ทางการแพทย์

การใช้เทคโนโลยี 3D ยังสามารถเปิดโอกาสในการออกแบบที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้น เพราะสามารถสร้างรูปทรงที่ซับซ้อนได้ง่ายกว่าการผลิตในวิธีดั้งเดิม เช่น การใช้โลหะหล่อหรือการปั๊มเหล็ก ซึ่งบางครั้งจะจำกัดการออกแบบในลักษณะรูปทรงที่ต้องการ

แม้ว่าเทคโนโลยีการพิมพ์ 3D จะมีข้อดีในแง่ของการลดน้ำหนักและเพิ่มประสิทธิภาพการระบายความร้อน แต่ก็ยังมีข้อจำกัดที่ต้องคำนึงถึง โดยเฉพาะในด้านต้นทุนและเวลาในการผลิต ซึ่งอาจจะเป็นอุปสรรคที่ทำให้ผู้ผลิตสมาร์ทโฟนไม่สามารถนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในระดับการผลิตจำนวนมากได้อย่างรวดเร็ว.

ในอนาคต คาดว่าเทคโนโลยีการพิมพ์ 3D อาจจะได้รับการพัฒนาให้สามารถผลิตได้เร็วขึ้นและมีต้นทุนที่ต่ำลง ทำให้สามารถใช้ในกระบวนการผลิตสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ได้มากขึ้น. นอกจากนี้ การพัฒนาเทคโนโลยีด้านการพิมพ์ 3D อาจจะช่วยให้ผู้ผลิตสามารถสร้างดีไซน์ที่น่าสนใจและแตกต่างจากคู่แข่งในตลาดได้

การพิมพ์ 3D ของสมาร์ทโฟนไม่เพียงแต่จะเปลี่ยนแปลงแง่มุมการออกแบบภายนอกของอุปกรณ์เท่านั้น แต่ยังอาจจะส่งผลต่อการพัฒนาเทคโนโลยีภายในสมาร์ทโฟนด้วยเช่นกัน. ย้อนกลับไปในช่วงต้นทศวรรษ 2000 บริษัทอย่าง Sharp ได้พยายามพัฒนาเทคโนโลยีจอภาพ 3D แบบไม่ต้องใช้แว่นตาในโทรศัพท์มือถือ แต่กลับพบว่ามีข้อจำกัดที่ทำให้เทคโนโลยีดังกล่าวไม่สามารถตอบโจทย์การใช้งานในวงกว้างได้

ด้วยความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในปัจจุบัน, อุปกรณ์ที่สามารถแสดงผล 3D โดยไม่ต้องใช้แว่นตา เช่น ZTE Nubia Pad 3D ซึ่งมาพร้อมกับจอแสดงผล 3D ที่ดีขึ้นอย่างมาก, จึงเป็นตัวอย่างของการพัฒนาทางเทคโนโลยีที่ช่วยขับเคลื่อนวงการมือถือไปข้างหน้า. หากการพิมพ์ 3D ของกรอบสมาร์ทโฟนสามารถพัฒนาไปพร้อมกับเทคโนโลยีจอภาพ 3D ในอนาคต มันอาจจะเปิดโอกาสให้มีสมาร์ทโฟนที่นำเสนอประสบการณ์การใช้งานที่หลากหลายยิ่งขึ้น

การนำเทคโนโลยีการพิมพ์ 3D มาใช้ในสมาร์ทโฟนจะยังคงเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาพัฒนา แต่การนำเทคโนโลยีนี้มาใช้ในกระบวนการผลิตอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการสมาร์ทโฟนในอนาคต

ที่มา : gizmochina