ในขณะที่วงการสมาร์ตโฟนต่างจับตาการเปิดตัวของ Google Pixel 10 ซึ่งกำหนดจะเผยโฉมในวันที่ 20 สิงหาคม ที่จะถึงนี้ ข่าวลือล่าสุดเริ่มเปลี่ยนโฟกัสจากสเปกเครื่องภายในและดีไซน์ภายนอก มาสู่จุดเด่นใหม่ด้านซอฟต์แวร์ที่น่าจับตามากกว่าเดิม โดยเฉพาะ ฟีเจอร์กล้องที่ผสาน AI เข้ามาอย่างล้ำลึก จนกลายเป็นประสบการณ์การใช้งานที่ “ไม่เหมือนใคร”

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญที่หลุดออกมาก่อนเปิดตัวคือระบบที่เรียกว่า Camera Coach ซึ่ง Google ใช้โมเดล AI อย่าง Gemini เข้ามามีบทบาทในการแนะนำผู้ใช้ให้ “ถ่ายรูปได้ดีขึ้น” แบบเรียลไทม์ โดยไม่ต้องมีพื้นฐานด้านการถ่ายภาพมาก่อน ฟีเจอร์นี้จะทำหน้าที่เสมือนผู้ช่วยส่วนตัว คอยแนะนำว่า ควรเปลี่ยนมุมกล้องแบบไหน ปรับแสงอย่างไร หรือเลี่ยงฉากหลังที่ไม่เหมาะสม โดยทั้งหมดเกิดขึ้นจากการที่ระบบ AI วิเคราะห์ภาพที่กล้องกำลังจับอยู่ แล้วเสนอคำแนะนำอย่างชาญฉลาดทันที

นั่นหมายความว่า ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ที่ไม่เคยเรียนถ่ายภาพ หรือแม้แต่ผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการเพียงแค่รูปสวย ๆ Camera Coach จะเข้ามายกระดับผลงานภาพถ่ายให้ใกล้เคียงระดับมืออาชีพได้แบบทันใจ

แต่ถ้าคุณถ่ายรูปออกมาแล้ว ยังอยากปรับนั่นนิดนี่หน่อย ฟีเจอร์ที่สองซึ่งน่าสนใจไม่แพ้กันคือ Conversational Photo Editing ที่เปลี่ยนประสบการณ์แต่งภาพให้กลายเป็นเรื่องง่ายสุดขีด ไม่ต้องลากปรับแสง ปรับสี หรือลบพื้นหลังด้วยมืออีกต่อไป เพียงแค่ พูดหรือพิมพ์ สิ่งที่คุณต้องการ AI ก็จะจัดการให้ทันที เช่น

  • “ช่วยลบถังขยะในภาพออกให้หน่อย”

  • “ทำให้พื้นหลังกลายเป็นทุ่งหญ้า”

  • “เพิ่มความสว่างให้ภาพหน่อย”

Gemini จะเข้าใจคำสั่งเหล่านี้ และดำเนินการให้โดยอัตโนมัติ คุณเพียงแค่สื่อสารกับ AI ด้วยภาษาธรรมชาติ ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ทุกคน ไม่ว่าจะมีทักษะด้านการแต่งภาพหรือไม่ ก็สามารถสร้างภาพที่ดูดีและตรงใจได้อย่างง่ายดาย

ฟีเจอร์ทั้งสองนี้จะมาพร้อมกับ Pixel 10 ทุกรุ่นย่อย ที่คาดว่าจะเปิดตัวพร้อมกันในงานกลางเดือนสิงหาคม โดยเบื้องต้นยัง จำกัดให้ใช้งานเฉพาะใน Pixel 10 เท่านั้น เพื่อดันให้สมาร์ตโฟนเรือธงรุ่นใหม่นี้มีความได้เปรียบด้านฟีเจอร์ และแสดงศักยภาพของ Gemini AI อย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวคาดว่าในอนาคต Google อาจปล่อยฟีเจอร์นี้ไปยัง Pixel รุ่นเก่าผ่านการอัปเดต Pixel Feature Drop และอาจนำ Conversational Photo Editing เข้าสู่ Google Photos เพื่อให้ผู้ใช้สมาร์ตโฟน Android รุ่นอื่น หรือแม้แต่ iPhone ได้ใช้งานร่วมกัน แต่ในช่วงแรกอาจต้องเป็น ผู้สมัครใช้งานแผน Google AI แบบเสียเงิน เท่านั้น

การขยับครั้งนี้ของ Google ไม่ใช่แค่การเพิ่มความสามารถให้กล้องมือถือ แต่เป็นการ “สร้างนิยามใหม่” ของการใช้ AI เพื่อยกระดับความคิดสร้างสรรค์ของผู้ใช้ทุกระดับให้แตะถึงความเป็นมือโปร โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์หรือความรู้เฉพาะทางใด ๆ อีกต่อไป

Pixel 10 อาจไม่ใช่แค่สมาร์ตโฟนกล้องดี แต่มันกำลังจะกลายเป็น ผู้ช่วยศิลปินส่วนตัว ที่พกพาไปได้ทุกที่ และพร้อมแปลงภาพธรรมดาให้กลายเป็นผลงานระดับโชว์ได้... แค่เพียง “พูด” เท่านั้น