realme เปิดตัว realme GT8 Pro อย่างเป็นทางการในประเทศจีน มาพร้อมสเปกระดับพรีเมียมครบทุกด้าน ทั้งประสิทธิภาพ จอภาพ และกล้อง โดยชูจุดเด่นกล้องหลักร่วมพัฒนากับ Ricoh GR ที่ขึ้นชื่อด้านโทนภาพและความสมจริงในการถ่ายภาพแนวสตรีต
realme GT8 Pro ใช้ชิปเซ็ต Snapdragon 8 Elite 5 (8E5) รุ่นล่าสุด ทำงานร่วมกับ ชิปกราฟิกเฉพาะ R1 ที่ช่วยประมวลผลภาพแบบเรียลไทม์เพื่อเพิ่มเฟรมเรตและความลื่นไหลในการเล่นเกม รองรับการแสดงผลระดับ 2K+ 120Hz/144Hz Super Frame Mode ทดสอบแล้วเกม Genshin Impact สามารถรันที่ค่าเฉลี่ยสูงถึง 118.9 FPS ในโหมด Ultra และใช้พลังงานเฉลี่ยเพียง 5.5W ขณะที่ PUBG Mobile ทำได้ถึง 142 FPS แสดงให้เห็นถึงการควบคุมความร้อนและการปลดล็อกประสิทธิภาพที่ยอดเยี่ยม
หน้าจอของรุ่นนี้ใช้พาเนล BOE Q10+ LTPS OLED ความละเอียด 2K แบบจอแบน (Flat) ขนาดใหญ่ พร้อมมุมโค้งแบบ R-Corner ให้ความรู้สึกพรีเมียม รองรับอัตรารีเฟรชสูงสุด 144Hz และความสว่างสูงสุดถึง 1100 nit พร้อมระบบสัมผัส 360Hz 4-finger Touch Sampling Rate สำหรับเกมเมอร์โดยเฉพาะ อีกทั้งยังรองรับ DC Dimming เต็มรูปแบบ และมีการปรับแต่งลดแสงสีฟ้าระดับฮาร์ดแวร์ (1nit Eye Protection) ผ่าน OTA ในอนาคต
กล้องคืออีกจุดที่ realme ทุ่มเต็มกำลัง โดยมาพร้อมกล้องหลัก 200 ล้านพิกเซล เซนเซอร์ขนาด 1/1.56” พร้อมเลนส์พิเศษ Ricoh GR Anti-glare Coating ที่ช่วยลดแสงสะท้อนและเพิ่มคอนทราสต์ของภาพ มีระยะเลนส์คู่ 28mm และ 40mm สำหรับแนวสตรีตและบุคคล ให้โทนภาพแบบ “กล้อง Ricoh GR” ที่เน้นอารมณ์และมิติความเป็นมนุษย์ นอกจากนี้ยังมีเลนส์ Periscope 200MP (HP5) ที่รองรับการซูมสูงสุด 10x แบบ ISZ algorithm และสามารถถ่ายวัตถุใกล้สุดได้ที่ระยะ 25mm เสริมด้วยเลนส์ Ultra-wide ความละเอียด 50MP ซึ่งรวมแล้วระบบกล้องของ GT8 Pro มีความครบเครื่องที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาด
ด้านแบตเตอรี่ realme GT8 Pro มาพร้อมความจุ 7000 mAh รองรับชาร์จไว 120W แบบมีสาย และ 50W แบบไร้สาย ใช้งานได้ตลอดวันโดยไม่ต้องกังวล พร้อมระบบกันน้ำระดับสูงสุดในตลาด และเซนเซอร์สแกนนิ้ว 3D Ultrasonic Fingerprint ที่มีความแม่นยำสูง ตัวเครื่องใช้โครงสร้างโลหะ (Metal Frame) แข็งแรงและระบายความร้อนได้ดี
realme ยังเปิดตัวดีไซน์ใหม่ “Mechanical Modular Design” ที่สามารถถอดเปลี่ยนโมดูลตกแต่งกล้อง (Deco) ได้เอง ซึ่งเป็นครั้งแรกในวงการสมาร์ตโฟน พร้อมเปิดให้ผู้ใช้สร้างโมเดล 3D สำหรับพิมพ์ด้วยเครื่อง Bambu Lab ได้อย่างอิสระ สะท้อนแนวคิด “DIY Phone” ที่ให้ผู้ใช้มีส่วนร่วมในการออกแบบสมาร์ตโฟนของตนเอง
นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบปฏิบัติการ realme UI 7.0 ที่อัปเดตระยะยาวถึง 5 ปีเต็ม รวมถึงฟีเจอร์ใหม่ด้าน AI และการจัดการพลังงานอัจฉริยะ โดยรวมแล้ว realme GT8 Pro ถือเป็น “สมาร์ตโฟนเรือธงที่ครบทุกด้าน” ทั้งจอภาพสุดลื่น กล้องระดับโปร เสียงคู่สมมาตร และดีไซน์ที่ให้ความสนุกในการปรับแต่งอย่างแท้จริง ขณะที่รุ่น realme GT8 ธรรมดาก็ยังมาพร้อมสเปกใกล้เคียงกัน ทั้งจอ 2K, กล้อง Ricoh GR, ชิป R1 และแบตเตอรี่ 7000 mAh ซึ่งถือเป็นตัวเลือกคุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการสมดุลระหว่างราคาและประสิทธิภาพอย่างลงตัว
ที่มา : ข้อมูล
