วงการเทคโนโลยีกำลังคึกคักทั้งในระดับโลกและประเทศไทย เมื่อบริษัทยักษ์ใหญ่และงานวิจัยใหม่ ๆ ชี้ทิศทางอนาคตที่น่าจับตา ตั้งแต่การเปิดตัว iPhone 17 Pro Max, การขยายตัวของแพลตฟอร์มสมาร์ตโฮมโดย True ไปจนถึงโอกาสของ Mobility as a Service (MaaS) ในไทย
iPhone 17 Pro Max ที่มีกำหนดเปิดตัวในงานพิเศษของ Apple วันที่ 9 กันยายน 2568 ถูกจับตามองเป็นพิเศษ รุ่นท็อปนี้คาดว่าจะใช้ชิป A19 Pro Bionic ขนาด 3nm พร้อมจอ LTPO OLED ขนาด 6.9 นิ้ว รองรับการแสดงผล Dolby Vision และมาพร้อมกล้องความละเอียดสูง 48MP หลายเลนส์ ขณะที่ราคาคาดว่าจะอยู่ราว 1,499 ดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 50,000 บาท การมาของ iPhone รุ่นใหม่นี้ถือเป็นการอัปเกรดครั้งใหญ่ทั้งด้านดีไซน์ ประสิทธิภาพ และประสบการณ์ใช้งาน
ด้านประเทศไทย True Corporation เดินหน้าพัฒนาแพลตฟอร์มบ้านอัจฉริยะ TrueX ด้วยการจับมือกับพันธมิตรระดับโลกอย่าง China Mobile International, T3 Technology และ Tuya Smart ความร่วมมือครั้งนี้มุ่งยกระดับการเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ภายในบ้าน ให้ผู้ใช้งานสะดวกและปลอดภัยมากขึ้น รองรับแนวโน้มการขยายตัวของสมาร์ตโฮมที่กำลังมาแรง
นอกจากนี้ งานวิจัยจาก มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง และ Muroran Institute of Technology ประเทศญี่ปุ่น เผยว่าแนวคิดบริการ Mobility as a Service (MaaS) หรือการรวมบริการเดินทางหลายรูปแบบไว้ในแพลตฟอร์มเดียว มีศักยภาพสูงในไทย เนื่องจากผู้ใช้งานให้ความสำคัญกับ “ความน่าเชื่อถือ” และ “ประโยชน์ด้านการเดินทางจริง” มากกว่าการถูกชักจูงจากกระแสสังคมออนไลน์
ทั้งหมดนี้สะท้อนว่า ภูมิทัศน์เทคโนโลยีกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ตลาดสมาร์ตโฟนระดับโลก ไปจนถึงระบบบ้านอัจฉริยะและบริการขนส่งอัจฉริยะในไทย ซึ่งหากแนวโน้มเหล่านี้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ผู้บริโภคทั่วโลกและในประเทศก็จะได้สัมผัสนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น