ตำรวจสอบสวนกลาง โดยกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ได้เดินหน้าเข้าจับกุมกลุ่มผู้ต้องหา 3 ราย ประกอบด้วย นายณัฐพงษ์ฯ, นายวิเนตรฯ และนายธีรวุฒิฯ หลังพบพฤติกรรมปล่อยเงินกู้นอกระบบในลักษณะขบวนการใหญ่ โดยคิดดอกเบี้ยในอัตราสูงเกินจริงและเก็บเงินอย่างโหดเหี้ยม การตรวจสอบพบว่ามีการกำหนดดอกเบี้ยร้อยละ 1.715 ต่อวัน คิดเป็นร้อยละ 51.45 ต่อเดือน และสูงถึงร้อยละ 626.25 ต่อปี ซึ่งถือเป็นการเอาเปรียบผู้กู้ที่เข้าข่ายผิดกฎหมายร้ายแรง

เมื่อผู้กู้ไม่สามารถชำระหนี้ตามกำหนด กลุ่มผู้ต้องหาจะใช้วิธีการกดดันและรังควาน ทั้งการไปถึงที่บ้าน ที่ทำงาน หรือแม้กระทั่งสถานประกอบการ เพื่อให้เกิดความอับอายและความกลัว วิธีการดังกล่าวเป็นการข่มขู่ในเชิงจิตวิทยาที่ทำให้ลูกหนี้หลายรายต้องยอมจ่ายทั้งต้นและดอก แม้จะเป็นจำนวนเงินที่สูงเกินกว่าที่ควรรับได้ หลายครอบครัวตกอยู่ในสภาพเป็นหนี้ซ้ำซ้อน เพราะต้องกู้จากที่อื่นมาใช้คืนดอกเบี้ยต่อเนื่องจนไม่สามารถหลุดพ้นวงจรได้

เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงินของเครือข่ายนี้ และพบว่ามีเงินหมุนเวียนในระบบมากกว่า 30 ล้านบาท เงินจำนวนนี้สะท้อนให้เห็นว่าขบวนการมีการดำเนินการอย่างเป็นระบบ มีลูกหนี้จำนวนมาก และมีการใช้บัญชีของบุคคลอื่น ๆ มาช่วยหมุนเวียนเพื่อหลบเลี่ยงการตรวจสอบ ลักษณะดังกล่าวใกล้เคียงกับการฟอกเงินและสร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม

ปัญหานี้ไม่เพียงแต่เป็นเรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่ไม่เป็นธรรม แต่ยังมีผลกระทบโดยตรงต่อความปลอดภัยและคุณภาพชีวิตของประชาชน ลูกหนี้หลายคนถูกคุกคามจนต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดกลัว ไม่กล้าเปิดเผยปัญหาเพราะเกรงอิทธิพลของนายทุนเงินกู้นอกระบบ บางรายถึงขั้นต้องขายทรัพย์สินหรือเลิกกิจการเพื่อชำระหนี้ การดำเนินการของขบวนการนี้จึงถือว่าเป็นการซ้ำเติมความยากลำบากของประชาชนอย่างรุนแรง

ตำรวจสอบสวนกลางยืนยันว่าจะดำเนินคดีกับผู้ต้องหาทั้งหมดตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด พร้อมขยายผลไปยังเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำลายโครงสร้างของขบวนการเงินกู้นอกระบบอย่างจริงจัง และในขณะเดียวกันยังเตือนประชาชนให้ระมัดระวัง อย่าตกเป็นเหยื่อของการกู้เงินที่ผิดกฎหมาย หากพบพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าวหรือถูกเอารัดเอาเปรียบ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด

การปราบปรามครั้งนี้เป็นอีกหนึ่งสัญญาณชัดเจนว่าตำรวจมุ่งมั่นแก้ไขปัญหาที่ซ่อนอยู่ในสังคมมานาน ตอกย้ำจุดยืนของตำรวจสอบสวนกลางในฐานะ “มืออาชีพ เป็นกลาง เคียงข้างประชาชน” ที่พร้อมยืนหยัดเพื่อคุ้มครองสิทธิและความเป็นธรรมให้แก่ผู้เดือดร้อน และจะไม่ปล่อยให้กลุ่มนายทุนเงินกู้นอกระบบมาสร้างความหวาดกลัวแก่สังคมได้อีกต่อไป