บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ BLS เปิดเผยบทวิเคราะห์ล่าสุด คาดการณ์ว่า กลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทย จะรายงานกำไรสุทธิรวมในไตรมาส 3 ปี 2568 ราว 54,311 ล้านบาท สะท้อนทิศทางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและการปรับกลยุทธ์เชิงรุกของสถาบันการเงินที่ตอบรับกับพฤติกรรมผู้บริโภคและธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป

ปัจจัยหนุนกำไรกลุ่มธนาคาร

BLS ชี้ว่า กำไรที่เติบโตขึ้นมาจากหลายปัจจัยผสมผสาน ได้แก่

  • รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NII) ที่ขยายตัวต่อเนื่อง จากการปล่อยสินเชื่อรายย่อย, สินเชื่อบ้าน และสินเชื่อ SME

  • ต้นทุนการตั้งสำรองลดลง หลังคุณภาพสินทรัพย์ปรับตัวดีขึ้น หนี้เสีย (NPL) คุมอยู่ในกรอบ

  • การบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้สัดส่วนต้นทุนต่อรายได้ (CIR) อยู่ในระดับที่เหมาะสม

เจาะรายธนาคาร

  • KBANK (กสิกรไทย) – คาดว่ายังครองแชมป์กำไรสูงสุดในกลุ่ม ด้วยฐานลูกค้าใหญ่ทั้งรายย่อยและธุรกิจ พร้อมการขยายสินเชื่อดิจิทัลและการลงทุนด้านแพลตฟอร์มออนไลน์

  • BBL (กรุงเทพ) – ได้แรงหนุนจากเครือข่ายต่างประเทศและสินเชื่อธุรกิจรายใหญ่ โดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศ

  • SCB (ไทยพาณิชย์) – โดดเด่นในฐานะธนาคารดิจิทัลเต็มรูปแบบ การรุกธุรกิจการเงินใหม่ ๆ เช่น ฟินเทคและสินเชื่อดิจิทัลยังสร้างรายได้เพิ่มขึ้น

  • KTB (กรุงไทย) – มีแรงส่งจากโครงการภาครัฐและฐานลูกค้าภาคประชาชนขนาดใหญ่ อีกทั้งบทบาทในด้านการทำธุรกรรมดิจิทัลที่เติบโตต่อเนื่อง

  • TTB (ทหารไทยธนชาต) – แม้เป็นธนาคารขนาดกลาง แต่มีจุดแข็งด้านสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ และการควบรวมที่ทำให้ต้นทุนถูกลง

  • BAY (กรุงศรีอยุธยา) – ได้แรงหนุนจากกลุ่ม MUFG ญี่ปุ่น มีการขยายธุรกิจสินเชื่อรายย่อยและสินเชื่อเพื่อการค้าระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง

แนวโน้มไตรมาสสุดท้าย

BLS ประเมินว่า ช่วงไตรมาส 4/68 กลุ่มธนาคารไทยยังคงรักษาการเติบโตได้ต่อเนื่องจากฤดูกาลท่องเที่ยวและการใช้จ่ายปลายปี ประกอบกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ยังทรงตัว ช่วยหนุนให้รายได้ดอกเบี้ยอยู่ในระดับสูง ขณะที่การแข่งขันด้านดิจิทัลแบงกิ้งและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ จะทำให้ธนาคารรายใหญ่และรายกลางยังคงสร้างความได้เปรียบในตลาด

มุมมองต่อนักลงทุน

นักวิเคราะห์มองว่า การคาดการณ์กำไรสุทธิรวมกว่า 5.4 หมื่นล้านบาท ในไตรมาส 3/68 เป็นสัญญาณเชิงบวกต่อความเชื่อมั่นในกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะหุ้นขนาดใหญ่ที่มีความแข็งแกร่งและมีความยืดหยุ่นสูงต่อภาวะเศรษฐกิจ นักลงทุนที่มองหาการลงทุนระยะกลางถึงยาวอาจพิจารณากลุ่มธนาคารเป็นหนึ่งในพอร์ตการลงทุน เนื่องจากยังมีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่องและจ่ายปันผลในระดับที่น่าสนใจ