กระแสจากผู้ปล่อยข่าวบน Weibo กำลังจุดไฟให้ตลาดสมาร์ตโฟนปีหน้าคึกคักกว่าที่คาด หลังมีสัญญาณชัดว่าหลายค่ายเตรียมยกทัพรุ่นใหม่ลงสังเวียนพร้อมกัน โดยเฉพาะกลุ่มจอพับที่ถูกพูดถึงว่าจะแข่งขันกันทุกสมรภูมิ ตั้งแต่เครื่องแนวตั้งแบบฝาพับไปจนถึงรุ่นแนวนอนระดับพรีเมียม ผู้ผลิตในอันดับท็อปไฟว์ของโลกต่างเร่งเครื่องพัฒนาเทคโนโลยีบานพับ วัสดุหน้าจอ และซอฟต์แวร์ให้ตอบโจทย์การใช้งานจริงมากขึ้น ขณะที่ตลาดจีนยังเห็น Huawei วิ่งนำในเชิงส่วนแบ่งและนวัตกรรม ส่วนแบรนด์บางรายอาจเลือกชะลอรุ่นย่อยในกลุ่มเครื่องเล็กเพราะต้นทุนการแข่งขันสูงและพื้นที่ทำกำไรเริ่มแคบลง

ท่ามกลางความเคลื่อนไหวของจอพับ กระแสเรือธงแบบแผงจอปกติก็ไม่เงียบ มีข้อมูลชุดใหม่ระบุว่า Redmi K90 และ realme GT8 จะเปิดเกมชนกันด้วยฮาร์ดแวร์ชุดล่าสุดของ Qualcomm นั่นคือ Snapdragon 8 Elite ซึ่งขึ้นชื่อด้านประสิทธิภาพดิบและการประมวลผล AI บนเครื่อง รุ่นท็อปของทั้งสองค่ายคาดมาพร้อมหน่วยความจำ 16GB และรองรับชาร์จไว 100 วัตต์ โดยมีการอัปเกรดแบตเตอรี่ให้จุเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเพื่อรองรับการใช้งานหนักต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้สะท้อนแนวทางเดียวกันของผู้ผลิตที่ต้องการยกระดับความเร็วและความเสถียร โดยไม่ลดทอนอายุการใช้งานในระยะยาว

ฝั่ง realme GT8 ถูกเน้นย้ำถึงเอกลักษณ์ด้านหน้าจอที่เลือกใช้แผง 2K แบบแบนเพื่อความคมชัดและการสัมผัสแม่นยำ เหมาะกับเกมเมอร์และผู้เสพคอนเทนต์ โครงกลางโลหะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเครื่อง ขณะที่ระบบสแกนนิ้วใต้จอแบบ 3D Ultrasonic ให้ความไวและแม่นยำแม้ปลายนิ้วชื้น ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่ผลักดันภาพลักษณ์แบบเรือธงเต็มตัว ส่วน Redmi K90 แม้ยังไม่ระบุรายละเอียดหน้าจอมากนัก แต่แนวทางของซีรีส์ K ที่ชัดเจนคือ “แรงต่อราคา” จึงมีความเป็นไปได้สูงว่าจะจัดชุดความสามารถระดับสูงมาครบ ไม่ว่าจะเป็นระบบระบายความร้อนขนาดใหญ่ รีเฟรชเรตหน้าจอสูง ลำโพงสเตอริโอ และซอฟต์แวร์ปรับจูนโหมดเกมเพื่อรีดพลังชิปใหม่ออกมาให้เต็มประสิทธิภาพ

ด้านการถ่ายภาพ ทั้งสองรุ่นถูกคาดหวังว่าจะได้รับประโยชน์จากเอนจินประมวลผลภาพรุ่นล่าสุดของชิป Snapdragon 8 Elite ซึ่งส่งผลโดยตรงกับคุณภาพภาพกลางคืน ความเร็วโฟกัส การกันสั่นวิดีโอ และฟีเจอร์ AI ที่ฉลาดขึ้น หากเสริมด้วยอัลกอริทึมซอฟต์แวร์ที่พัฒนาเฉพาะแบรนด์ ก็ยิ่งเพิ่มความเป็นไปได้ที่เราจะได้เห็นความก้าวหน้าแบบรู้สึกได้ตั้งแต่วันแรกที่ใช้งานจริง

ภาพรวมตลาดจึงกำลังก่อตัวเป็นศึกสองแนวทางที่น่าจับตา แนวทางแรกคือ “นวัตกรรมรูปทรง” จากสมาร์ตโฟนจอพับซึ่งปีหน้ามีโอกาสเห็นการแตกไลน์รุ่นและช่วงราคาอย่างกว้างขวาง อีกแนวทางคือ “พลังประสิทธิภาพ” ของเรือธงจอปกติที่ยังเดินหน้าแข่งกันด้วยชิปเซ็ตระดับสูง ระบบชาร์จไว และงานประกอบพรีเมียม สำหรับผู้บริโภค สิ่งที่ต้องรอลุ้นต่อไปคือกำหนดการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ รายละเอียดสเปกกล้องเต็มรูปแบบ และที่สำคัญที่สุดคือราคาวางขายพร้อมโปรโมชั่นช่วงเปิดตลาด เพราะสุดท้ายแล้วป้ายราคาและสิทธิพิเศษในช่วงแรกจะเป็นตัวตัดสินใจสำคัญว่าจะเทใจไปฝั่งใด เมื่อพิจารณาสัญญาณทั้งหมดในตอนนี้ มีแนวโน้มสูงว่าช่วงปลายปีต่อเนื่องถึงต้นปีหน้าจะเป็นฤดูกาลที่คึกคักที่สุดฤดูกาลหนึ่งของสมาร์ตโฟนในรอบหลายปีเลยทีเดียว