LINE Thailand ประกาศการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญต่อฟีเจอร์ “ยกเลิกข้อความ” โดยจากเดิมที่เปิดโอกาสให้ผู้ใช้งานสามารถลบหรือยกเลิกข้อความที่ส่งไปแล้วภายใน 24 ชั่วโมง ได้ถูกปรับลดเหลือเพียง 1 ชั่วโมงหลังส่งข้อความ เท่านั้น การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะทยอยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคม 2568 เป็นต้นไป
การปรับกฎครั้งนี้สะท้อนถึงแนวทางของแพลตฟอร์มที่ต้องการสร้างมาตรฐานใหม่ด้านความโปร่งใสและความรับผิดชอบของผู้ใช้ เนื่องจากที่ผ่านมา ฟีเจอร์ยกเลิกข้อความภายใน 24 ชั่วโมง แม้จะเป็นตัวช่วยในการแก้ไขความผิดพลาด แต่ก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าถูกนำไปใช้ในทางที่ไม่เหมาะสม เช่น การลบข้อความที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมหรือการสื่อสารที่มีความสำคัญ จนก่อให้เกิดความสับสนและปัญหาความน่าเชื่อถือในการสนทนา
ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อดิจิทัลชี้ว่า แนวทางของ LINE ครั้งนี้สอดคล้องกับมาตรการของแอปพลิเคชันแชตระดับโลก ไม่ว่าจะเป็น WhatsApp หรือ Messenger ที่ต่างมีข้อจำกัดเวลาในการแก้ไขหรือลบข้อความเช่นกัน เพื่อลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและการบิดเบือนข้อมูล ทั้งนี้ยังถือเป็นสัญญาณว่าแพลตฟอร์มแชตกำลังให้ความสำคัญต่อการรักษาความถูกต้องของบทสนทนามากกว่าความสะดวกสบายของผู้ใช้
อย่างไรก็ดี เสียงสะท้อนจากผู้ใช้งานในประเทศไทยมีทั้งสองด้าน ฝ่ายหนึ่งเห็นด้วยกับมาตรการใหม่นี้ โดยให้เหตุผลว่าจะช่วยเพิ่มความรับผิดชอบต่อการสื่อสาร ลดการใช้ฟีเจอร์ยกเลิกข้อความในทางที่ผิด ขณะที่อีกฝ่ายกลับมองว่าช่วงเวลา 1 ชั่วโมงนั้นสั้นเกินไป โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ส่งข้อความผิดกลุ่ม ผิดบุคคล หรือข้อความที่อาจส่งผลเสียหายต่อความสัมพันธ์ส่วนตัวและการทำงาน
ในแวดวงธุรกิจและองค์กร มาตรการใหม่นี้อาจส่งผลโดยตรงต่อรูปแบบการทำงาน โดยเฉพาะในกลุ่มที่ใช้ LINE เป็นช่องทางหลักในการสื่อสาร เช่น กลุ่มงานขาย การบริการลูกค้า หรือการติดต่อภายในองค์กร เนื่องจากการสื่อสารที่ผิดพลาดไม่สามารถแก้ไขหรือลบได้ทันทีหลังพ้นช่วงเวลา 1 ชั่วโมง จึงอาจสร้างแรงกดดันให้ผู้ใช้งานต้องตรวจสอบข้อความอย่างรอบคอบก่อนกดส่งมากยิ่งขึ้น
ด้านนักกฎหมายบางรายยังตั้งข้อสังเกตว่า การจำกัดเวลาในการยกเลิกข้อความอาจช่วยป้องกันการนำข้อความไปใช้เป็นหลักฐานทางกฎหมายหรือการทำธุรกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะข้อความที่ถูกลบออกไปหลังเวลานาน มักสร้างความไม่ชัดเจนและกลายเป็นข้อพิพาทในภายหลัง การลดระยะเวลาเหลือเพียง 1 ชั่วโมง จึงช่วยคงไว้ซึ่งความถูกต้องของบันทึกการสนทนา
อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายยังคาดว่า LINE อาจต้องพิจารณาเพิ่มฟีเจอร์ใหม่ ๆ เพื่อตอบสนองต่อข้อกังวลของผู้ใช้ เช่น ระบบแจ้งเตือนเมื่อข้อความถูกส่งไปยังผู้รับผิดกลุ่ม ระบบยืนยันข้อความสำคัญก่อนส่ง หรือการให้สิทธิ์สมาชิกพรีเมียมในการปรับระยะเวลายกเลิกข้อความได้ตามต้องการ เพื่อสร้างความยืดหยุ่นและลดแรงต่อต้านจากผู้ใช้ทั่วไป
มาตรการนี้นับเป็นอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายที่สำคัญของ LINE ในการรักษาสมดุลระหว่างความปลอดภัย ความโปร่งใส และความสะดวกสบายของผู้ใช้งาน ซึ่งผลลัพธ์จะเป็นที่ยอมรับหรือสร้างแรงกระเพื่อมในสังคมออนไลน์เพียงใด คงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดเมื่อมาตรการบังคับใช้อย่างเต็มรูปแบบปลายเดือนตุลาคมนี้
