Qualcomm เตรียมสร้างแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ให้กับวงการสมาร์ตโฟนด้วยการมาถึงของ Snapdragon 8 Elite Gen 5 ชิปเรือธงรุ่นใหม่ที่ก่อนหน้านี้หลายคนคาดว่าจะใช้ชื่อ Snapdragon 8 Elite 2 แต่ล่าสุดมีการยืนยันแล้วว่าชื่อจริงจะใช้คำว่า “Gen 5” และที่น่าตื่นเต้นที่สุดคือผลการทดสอบเบนช์มาร์กบน AnTuTu ที่หลุดออกมา โดยแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้อย่าง Digital Chat Station ระบุว่าชิปตัวนี้สามารถทำคะแนนทะลุ 4 ล้านแต้ม ซึ่งถือว่าก้าวกระโดดอย่างมากจากรุ่นก่อนที่ทำได้เพียงราว 2.5–3 ล้านแต้ม การเพิ่มขึ้นของคะแนนที่มากขนาดนี้บ่งบอกว่าประสิทธิภาพทั้งด้าน CPU และ GPU ถูกยกระดับไปอีกขั้นจนพร้อมที่จะเปลี่ยนประสบการณ์การใช้งานสมาร์ตโฟนเรือธงในปี 2025 อย่างแท้จริง
ข้อมูลด้านสถาปัตยกรรมเผยว่า Snapdragon 8 Elite Gen 5 ใช้คอร์หลักที่มีความเร็วสูงสุดถึง 4.61GHz เสริมด้วยคอร์ประสิทธิภาพที่ 3.63GHz และมาพร้อมจีพียู Adreno 840 ที่รันที่ความเร็ว 1.2GHz ซึ่งถูกออกแบบให้รองรับการเรนเดอร์กราฟิกและงานประมวลผลหนัก ๆ ได้อย่างลื่นไหล โดยเฉพาะเกมระดับ AAA ที่ต้องใช้พลังการประมวลผลสูงจะสามารถเล่นได้ด้วยเฟรมเรตที่เสถียรกว่าที่เคย อีกทั้งยังมีข่าวลือถึงเวอร์ชันพิเศษอย่าง Snapdragon 8 Elite Gen 5 for Galaxy ที่จะถูกปรับแต่งให้ใช้งานได้เต็มศักยภาพมากยิ่งขึ้น โดยมีความเร็วสูงสุดถึง 4.74GHz ซึ่งจะถูกนำไปใช้กับ Samsung Galaxy S26 Series ที่จะเปิดตัวในปีหน้า ทำให้ซัมซุงอาจมีความได้เปรียบเหนือคู่แข่งในตลาด Android ด้วยชิปที่แรงกว่าเวอร์ชันทั่วไป
การเปิดตัวของ Snapdragon 8 Elite Gen 5 มีกำหนดจัดขึ้นในงาน Snapdragon Summit วันที่ 23 กันยายนนี้ โดยนอกจากชิปเรือธงตัวท็อปแล้ว Qualcomm ยังมีแผนเปิดตัว Snapdragon 8 Gen 5 รุ่นรองท็อปควบคู่กันไปด้วย เพื่อขยายไลน์อัปสำหรับผู้ผลิตสมาร์ตโฟนหลายระดับราคา จุดแข็งสำคัญของชิปรุ่นใหม่นี้ไม่ใช่แค่ตัวเลขบนกระดาษ แต่ยังรวมถึงประสบการณ์ที่ผู้ใช้จะได้รับจริง ไม่ว่าจะเป็นการสลับแอประหว่างการใช้งานที่เร็วขึ้น การเล่นเกมที่สมจริงและลื่นไหล การเรนเดอร์วิดีโอที่ใช้เวลาสั้นลง ไปจนถึงการจัดการพลังงานที่ดีกว่าเดิม ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่และทำให้สมาร์ตโฟนทำงานได้เสถียรยาวนานกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม การก้าวกระโดดครั้งนี้ยังเป็นแรงกดดันสำคัญต่อคู่แข่งหลักในตลาดอย่าง MediaTek, Apple และแม้แต่ Samsung เองที่ยังพัฒนา Exynos อยู่ ฝั่ง MediaTek ที่เพิ่งผลักดัน Dimensity 9300/9300+ เข้าสู่ตลาดและได้รับเสียงชื่นชมด้านประสิทธิภาพ อาจต้องเร่งเครื่องพัฒนา Dimensity 9400 ให้แรงยิ่งกว่าเดิมเพื่อไม่ให้เสียความได้เปรียบ ส่วน Apple แม้จะไม่เน้นแข่งกับตัวเลข benchmark แต่การที่ Qualcomm สามารถสร้างช่องว่างด้านประสิทธิภาพที่ชัดเจน อาจทำให้ iPhone ถูกมองว่าตามหลังในด้านการเล่นเกมและงานกราฟิกหนัก ๆ ที่ Android เริ่มทำได้ดีกว่า และในขณะที่ Samsung พยายามฟื้นแบรนด์ Exynos ให้กลับมาแข่งขันได้ การที่ Qualcomm เตรียมปล่อยเวอร์ชันพิเศษสำหรับ Galaxy ก็อาจทำให้ Exynos ยิ่งถูกกลบความน่าสนใจลงไปอีก
โดยสรุป Snapdragon 8 Elite Gen 5 ไม่ได้เป็นเพียงการอัปเกรดตามรอบปี แต่คือการยกระดับครั้งใหญ่ที่อาจนิยามใหม่ให้กับสมาร์ตโฟนเรือธงในปี 2025 ด้วยพลังการประมวลผลที่ก้าวข้ามขีดจำกัดเดิม ทำคะแนน AnTuTu ได้เกิน 4 ล้านแต้ม และยังมีเวอร์ชันปรับแต่งพิเศษสำหรับ Galaxy ที่อาจทำให้ซัมซุงกลับมาครองความได้เปรียบในตลาดอีกครั้ง ขณะเดียวกันก็เป็นแรงผลักดันให้คู่แข่งทุกเจ้าต้องเร่งพัฒนาเพื่อไม่ให้ถูกทิ้งห่าง การเปิดตัวที่จะมีขึ้นใน Snapdragon Summit วันที่ 23 กันยายนนี้จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญที่ทั้งผู้ใช้และผู้ผลิตสมาร์ตโฟนทั่วโลกต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด
ที่มา : SammyGuru