ศูนย์วิจัยกสิกรไทยเปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อของจีนในเดือนมกราคม 2568 ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือน โดยได้รับแรงหนุนจากการปรับขึ้นของราคาอาหารสด ทั้งเนื้อหมูและผักผลไม้ ซึ่งได้รับอานิสงส์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน นอกจากนี้ ภาคบริการยังได้รับแรงสนับสนุนจากการท่องเที่ยวในช่วงเวลาดังกล่าว โดยรายได้จากการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลตรุษจีนเพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY)

อย่างไรก็ตาม เงินเฟ้อในส่วนที่ไม่ใช่อาหารยังคงอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้บริโภคยังคงระมัดระวังการใช้จ่าย ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ยังคงมีความไม่แน่นอน โดยเฉพาะในด้านกำลังซื้อของประชาชนที่ยังคงถูกกดดันจากสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัว

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุว่า แม้ว่าการเร่งตัวขึ้นของเงินเฟ้อในเดือนมกราคม 2568 จะเป็นผลมาจากปัจจัยชั่วคราว เช่น การเพิ่มขึ้นของอุปสงค์ช่วงเทศกาล แต่จีนยังคงเผชิญกับความเสี่ยงด้านเงินฝืด โดยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของจีนในเดือนมกราคมลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 28 ติดต่อกัน สะท้อนถึงต้นทุนการผลิตที่ยังคงอ่อนแอและภาวะอุปทานส่วนเกินที่ยังคงกดดันราคาสินค้าอุตสาหกรรม

ในระยะข้างหน้า ราคาผู้ผลิตมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากปัญหากำลังการผลิตส่วนเกินที่อาจเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งคาดว่าจะทวีความรุนแรงขึ้นตลอดทั้งปี นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจของจีนยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันการใช้จ่ายของผู้บริโภค และอาจส่งผลให้การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนเป็นไปอย่างชะลอตัว