วันนี้ (19 กุมภาพันธ์ 2568) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน “Matichon Leadership Forum 2025 Trust Thailand : เชื่อมั่นประเทศไทย” ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยระบุถึงแนวทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมตั้งเป้าหมายให้ GDP ปีนี้ขยายตัว 3% ผ่านการดึงดูดการลงทุนจากต่างชาติ เสริมศักยภาพโครงสร้างพื้นฐาน และแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า แม้เศรษฐกิจไทยจะเผชิญความท้าทายในปีที่ผ่านมา แต่สามารถขยายตัวได้ 2.5% จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นการใช้จ่ายภายในประเทศและภาคการท่องเที่ยว ปีนี้รัฐบาลตั้งเป้าผลักดันเศรษฐกิจให้เติบโต 3% โดยอาศัยแรงขับเคลื่อนจากการลงทุนภาครัฐและเอกชน รวมถึงการเร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ เช่น ระบบโลจิสติกส์ และรถไฟความเร็วสูง เพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ

รัฐบาลยังเดินหน้ายกระดับขีดความสามารถของประเทศให้เป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยี โดยล่าสุด บีโอไออนุมัติการลงทุนของบริษัทระดับโลก เช่น Tiktok และ NVIDIA Cloud Partner มูลค่ารวมกว่า 1.3 แสนล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีมาตรการส่งเสริมอุตสาหกรรมแห่งอนาคต เช่น ยานยนต์ไฟฟ้า ปัญญาประดิษฐ์ และเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจยุคดิจิทัล

ในด้านการท่องเที่ยว รัฐบาลมีแผนกระตุ้นตลาดผ่านการสร้างแหล่งท่องเที่ยวใหม่แบบ Man-made Destination และส่งเสริม Soft Power เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ลดปัญหาการท่องเที่ยวตามฤดูกาล และกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนมากขึ้น นโยบายฟรีวีซ่ายังช่วยให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการเดินทางให้มีความสะดวกสบายยิ่งขึ้น

อีกหนึ่งปัญหาที่รัฐบาลให้ความสำคัญคือ หนี้สินของประชาชน โดยเดินหน้าโครงการ "คุณสู้ เราช่วย" ที่ช่วยเหลือลูกหนี้กว่า 8.3 แสนบัญชี และเตรียมขยายมาตรการเพิ่มเติมเพื่อบรรเทาภาระหนี้ครัวเรือน พร้อมขอความร่วมมือจากธนาคารพาณิชย์ในการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้กับผู้ประกอบการรายย่อย (SME)

ด้านความมั่นคง รัฐบาลเร่งปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ โดยเฉพาะแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่สร้างความเสียหายอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้ใช้มาตรการตัดสัญญาณไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตในพื้นที่ต้องสงสัยตามแนวชายแดนไทย-เมียนมา และช่วยเหลือเหยื่อที่ถูกหลอกไปทำงานผิดกฎหมายกลับมาได้แล้วกว่า 300 คน นอกจากนี้ ยังมีพระราชกำหนดมาตรการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยีที่กำหนดให้ธนาคารพาณิชย์และบริษัทโทรคมนาคมต้องร่วมรับผิดชอบต่อผู้เสียหายจากการหลอกลวงออนไลน์ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในเร็ว ๆ นี้

นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า ความเชื่อมั่นของประเทศไม่ได้เกิดจากการทำงานของรัฐบาลเพียงฝ่ายเดียว แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชน หรือประชาชน เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยไปข้างหน้า สร้างเศรษฐกิจที่มั่นคง และพัฒนาสังคมที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน