สหรัฐฯ และยูเครนได้ลงนามในข้อตกลงสำคัญเกี่ยวกับการขุดและจัดหาแร่ธาตุที่มีความสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีและพลังงานสะอาด ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองประเทศ ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ปะทะทางการเมืองที่ทำเนียบขาว

เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2568 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ได้พบปะหารือกันที่ทำเนียบขาว แต่การประชุมครั้งนี้ไม่ได้ราบรื่นตามที่คาดหวังไว้ โดยเฉพาะในประเด็นสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ที่ทั้งสองฝ่ายมีท่าทีที่ขัดแย้งกันอย่างชัดเจน

ระหว่างการตอบคำถามจากสื่อที่ทำเนียบขาว นายทรัมป์ได้แทรกการพูดคุยและวิจารณ์ผู้นำยูเครนอย่างรุนแรง โดยกล่าวว่า เซเลนสกีไม่ควรพูดจาแนะนำสหรัฐฯ และไม่ควรจะถือสิทธิ์สั่งการในเรื่องการแก้ไขปัญหาที่กำลังดำเนินการอยู่ นอกจากนี้ยังโจมตีผู้นำยูเครนว่ากำลังนำประชาชนหลายล้านคนไปเสี่ยงกับความขัดแย้งที่อาจบานปลายกลายเป็นสงครามโลกครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้

สถานการณ์ตึงเครียดเพิ่มขึ้นจนเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวต้องเชิญผู้นำยูเครนออกจากทำเนียบขาวหลังการประชุมเพียงหนึ่งชั่วโมง พร้อมทั้งยกเลิกงานแถลงข่าวร่วมและพิธีลงนามข้อตกลงแร่ธาตุที่วางแผนไว้

การทะเลาะกันในครั้งนี้สะท้อนถึงความขัดแย้งทางการเมืองระหว่างสหรัฐฯ และยูเครน โดยเฉพาะหลังจากการที่ทรัมป์เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งดูเหมือนว่าท่าทีของสหรัฐฯ ต่อยูเครนเริ่มมีความเปลี่ยนแปลงมากขึ้นหลังจากการหารือกับผู้นำรัสเซียในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

ทรัมป์ยังได้กล่าวในภายหลังผ่านโซเชียลมีเดียว่า การสนับสนุนที่สหรัฐฯ มอบให้ยูเครนนั้นไม่ควรนำไปใช้เพื่อประโยชน์ในการต่อรองกับการเจรจาสันติภาพ โดยเขาเรียกร้องให้ยูเครนพิจารณาข้อตกลงเพื่อยุติสงครามอย่างจริงจัง หากไม่ทำเช่นนั้น สหรัฐฯ อาจต้องถอนการสนับสนุนต่อยูเครน