สหรัฐอเมริกา หยุดการช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครนภายใต้การปกครองของทรัมป์
วันที่โพสต์: 5 มีนาคม 2568 14:52:00 การดู 1 ครั้ง ผู้โพสต์ baikhao
ตั้งแต่ที่รัสเซียเริ่มการรุกรานยูเครนในปี 2022 สหรัฐอเมริกาได้ให้การสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครนมูลค่ารวมถึง 65.9 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงการส่งมอบอาวุธและอุปกรณ์ทางทหารหลากหลายประเภท เช่น ระบบป้องกันภัยทางอากาศ, ปืนใหญ่, ขีปนาวุธต่อต้านรถถัง และเครื่องบินขับไล่ต่างๆ เพื่อช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกองทัพยูเครนในการต่อสู้กับกองทัพรัสเซียที่รุกราน แต่การสนับสนุนนี้ได้รับการชะลอหลังจากที่โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะนั้น ได้สั่งระงับการช่วยเหลือ
ในช่วงที่โจ ไบเดนดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี สหรัฐฯ ได้ยืนยันการสนับสนุนที่ไม่เสื่อมคลายต่อยูเครน โดยประกาศว่าจะสนับสนุนอธิปไตยและความเป็นอิสระทางดินแดนของยูเครนอย่างเต็มที่ การช่วยเหลือทางทหารนี้ได้รับการอนุมัติจากไบเดน และมีการส่งมอบอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ระบบขีปนาวุธ Patriot, Nasams, และขีปนาวุธ Stinger สำหรับป้องกันภัยทางอากาศ รวมถึงปืนใหญ่ขนาด 155 มม. และ
อย่างไรก็ตาม เมื่อทรัมป์กลับมาดำรงตำแหน่งในปี 2024 การสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครนกลับถูกหยุดชะงัก โดยทรัมป์ได้ตัดสินใจสั่งระงับการช่วยเหลือทางทหารหลังจากที่เขาได้มีการพูดคุยกับประธานาธิบดียูเครน โวโลดีมีร์ เซเลนสกี ท่าทีของทรัมป์ในช่วงนั้นเน้นการผลักดันให้ยูเครนทำข้อตกลงกับสหรัฐฯ ซึ่งจะต้องยอมมอบทรัพยากรธรรมชาติในประเทศให้กับสหรัฐฯ โดยแลกกับการรับประกันความมั่นคงจากสหรัฐฯ แต่ความสัมพันธ์ของทรัมป์และเซเลนสกีตึงเครียดขึ้นเมื่อเซเลนสกีกล่าวว่าเขายินดีที่จะทำข้อตกลงนี้ แต่เพียงแค่ในกรณีที่ได้รับการรับรองความมั่นคงจากสหรัฐฯ ซึ่งความขัดแย้งนี้นำไปสู่เหตุการณ์ที่ทำให้การส่งมอบอาวุธถูกหยุดชะงักในที่สุด
ทรัมป์ได้พูดถึงการช่วยเหลือยูเครนโดยบอกว่าเขาต้องการผลักดันให้เกิด "สันติภาพที่ยั่งยืน" แต่กลับมุ่งเน้นการกดดันยูเครนให้ทำข้อตกลงที่มีประโยชน์ทางเศรษฐกิจแก่สหรัฐฯ ในขณะที่ความคาดหวังจากผู้นำสหรัฐฯ เองนั้นคือการปกป้องและสนับสนุนยูเครนในการต่อสู้กับรัสเซียเพื่อลดอิทธิพลของรัสเซียในยุโรป
ในขณะที่ปัญหานี้ยังคงเป็นประเด็นที่มีการถกเถียงในสหรัฐฯ การตัดสินใจของทรัมป์ได้สร้างความสับสนและความวิตกกังวลในหลายๆ ฝ่าย เพราะยูเครนจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนทางทหารต่อไปเพื่อปกป้องอธิปไตยของตนเองจากการรุกรานของรัสเซีย ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อความมั่นคงในภูมิภาคและทั่วโลก โดยเฉพาะในแง่ของผลกระทบจากสงครามที่ยังไม่จบสิ้นและความเสี่ยงในการยืดเยื้อของสงครามโลกที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
การที่ทรัมป์สั่งระงับการช่วยเหลือนี้ยิ่งทำให้สถานการณ์ยิ่งตึงเครียด เนื่องจากหลายประเทศในยุโรปและพันธมิตรอื่นๆ กำลังเฝ้าดูท่าทีของสหรัฐฯ ในเรื่องนี้อย่างใกล้ชิด สหรัฐฯ ไม่เพียงแต่เป็นผู้จัดหาอาวุธหลักให้แก่ยูเครนเท่านั้น แต่ยังเป็นกำลังสำคัญในการตัดสินใจทางการทูตและการให้ความช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจแก่ยูเครน
แท็ก: ยูเครน สหรัฐอเมริกา