มหานครนิวยอร์กอาจใกล้ถึงวันที่การเดินทางภายในเมืองจะไม่จำกัดอยู่แค่บนพื้นถนนอีกต่อไป เมื่อบริษัทสตาร์ทอัพด้านการบินไฟฟ้าอย่าง Archer Aviation ประกาศแผนเปิดให้บริการ “แท็กซี่บินได้” ร่วมกับสายการบิน United Airlines ซึ่งจะเปลี่ยนวิธีการเดินทางจากใจกลางเมืองไปยังสนามบินให้รวดเร็วเหลือเพียงไม่กี่นาที ด้วยยานบินแนวตั้งพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ที่กำลังพัฒนาอยู่

แผนของ Archer คือการสร้างเครือข่ายการบินขนาดย่อมที่เชื่อมต่อระหว่างแมนฮัตตันและสนามบินหลักอย่าง JFK, LaGuardia และ Newark ด้วยเวลาเดินทางเพียงประมาณ 10-15 นาที โดยเริ่มต้นจากการตั้งฐานให้บริการในจุดยุทธศาสตร์ 9 แห่ง ซึ่งครอบคลุมทั้งสนามบินนานาชาติ สนามบินภูมิภาค และเฮลิพอร์ตภายในเมือง เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางเชื่อมต่อกับเที่ยวบินพาณิชย์ได้อย่างไร้รอยต่อภายในตั๋วใบเดียว

แม้ปัจจุบันเครื่องบินที่ใช้ในโครงการนี้ ซึ่งมีชื่อว่า “Midnight” จะยังอยู่ในขั้นตอนการรับรองจากสำนักงานการบินพลเรือนของสหรัฐฯ (FAA) และยังไม่เคยมีการทดสอบบินโดยนักบินจริง แต่ Archer มีความคืบหน้าในการบินอัตโนมัติแล้ว และคาดว่าจะสามารถเริ่มการทดสอบที่มีนักบินภายในปี 2026 โดยบริษัทมีแผนสร้างเครื่องบินจำนวนมากในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ซึ่งจะผลิตจากโรงงานในรัฐจอร์เจียที่สร้างร่วมกับพันธมิตรอย่าง Stellantis

United Airlines ไม่เพียงแค่เป็นพันธมิตรร่วมในแผนบริการเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสนับสนุนในด้านโลจิสติกส์ การดูแลเครื่องบิน และการวางโครงสร้างพื้นฐานสำหรับสถานีจอดและชาร์จไฟฟ้า รวมถึงการเชื่อมโยงกับระบบสนามบินของตนเองอีกด้วย ขณะเดียวกัน Archer ก็ได้ร่วมมือกับบริษัทที่บริหารเฮลิพอร์ตในนิวยอร์ก เช่น Atlantic Aviation และ Signature เพื่อเตรียมพร้อมสถานที่สำหรับขึ้นลงของยานบินในเมืองอย่างมีประสิทธิภาพ

Archer มองว่านิวยอร์กเป็นเมืองที่มีศักยภาพมากที่สุดในโลกสำหรับบริการแท็กซี่บินได้ เนื่องจากเป็นเมืองที่มีการใช้เฮลิคอปเตอร์เพื่อการโดยสารมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก รองจากเซาเปาโล ประเทศบราซิล อีกทั้งโครงสร้างพื้นฐานเดิม เช่น เส้นทางการบินและระบบควบคุมการจราจรทางอากาศ ก็พร้อมรองรับเทคโนโลยีใหม่ได้ทันทีโดยไม่ต้องรื้อระบบทั้งหมด

แม้โครงการในนิวยอร์กจะเป็นหนึ่งในไฮไลต์หลักของบริษัท แต่ Archer ยังมีแผนขยายบริการไปยังเมืองใหญ่อื่น ๆ ในสหรัฐฯ อย่างลอสแอนเจลิส ซานฟรานซิสโก และไมอามี รวมถึงการเตรียมให้บริการในอาบูดาบี ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งอาจเริ่มบินได้เร็วกว่าสหรัฐฯ เนื่องจากกฎหมายที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า

หากโครงการนี้สำเร็จตามแผน ไม่เพียงแค่จะเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางในเมืองใหญ่ให้ทันสมัยและรวดเร็วขึ้น แต่ยังเป็นก้าวสำคัญของอุตสาหกรรมการบินไฟฟ้าที่จะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันในอนาคตอันใกล้ และอาจทำให้การเดินทางในมหานครอย่างนิวยอร์กเป็นเรื่องที่ “บินได้” อย่างแท้จริง

ที่มา : techcrunch