กรมอุตุนิยมวิทยารายงานสภาพอากาศทั่วประเทศในวันนี้ (24 ตุลาคม 2567) ระบุว่า หลายพื้นที่จะพบกับอากาศเย็นในช่วงเช้า โดยเฉพาะทางภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่ภาคใต้ยังมีฝนฟ้าคะนองเป็นส่วนใหญ่ และในพื้นที่ใกล้ชายฝั่งต้องเฝ้าระวังคลื่นลมแรง การเดินทางโดยเรือควรระมัดระวังเป็นพิเศษ

ภาคเหนือ: อากาศเย็นสบาย และฝนประปราย

พื้นที่ทางตอนเหนือของประเทศไทย อุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อยในช่วงเช้า โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และตาก อุณหภูมิจะต่ำสุดอยู่ที่ประมาณ 21-24 องศาเซลเซียส ขณะที่กลางวันอุณหภูมิอาจสูงถึง 31-35 องศาเซลเซียส ในพื้นที่บางจังหวัด เช่น สุโขทัย และพิษณุโลก มีโอกาสเกิดฝนฟ้าคะนองเล็กน้อย ประมาณร้อยละ 20 ของพื้นที่

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: ลมแรงและอากาศเย็นลง

สำหรับภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส โดยเฉพาะในจังหวัดเลย หนองคาย และขอนแก่น อากาศจะเย็นสบายในช่วงเช้า อุณหภูมิต่ำสุดประมาณ 20-23 องศาเซลเซียส ขณะที่กลางวันจะอยู่ที่ 32-34 องศาเซลเซียส ฝนตกมีโอกาสเกิดขึ้นเล็กน้อย ประมาณร้อยละ 10 ของพื้นที่ แต่ลมตะวันออกเฉียงเหนือจะพัดแรงที่ความเร็ว 10-30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาคกลาง: ฝนตกเล็กน้อย อากาศยังคงอบอุ่น

ภาคกลางยังคงมีฝนฟ้าคะนองกระจายอยู่ในบางพื้นที่ โดยเฉพาะจังหวัดกาญจนบุรี และสุพรรณบุรี ซึ่งคาดว่าฝนจะครอบคลุมราวร้อยละ 20 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุดในช่วงเช้าอยู่ที่ 22-25 องศาเซลเซียส ขณะที่อุณหภูมิสูงสุดในช่วงกลางวันอยู่ที่ 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกที่พัดผ่านในพื้นที่จะมีความเร็วประมาณ 10-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

ภาคตะวันออก: ฝนฟ้าคะนองและคลื่นลมในทะเล

บริเวณภาคตะวันออก มีโอกาสเกิดฝนฟ้าคะนองประมาณร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากจะเกิดในจังหวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง อุณหภูมิในช่วงเช้าต่ำสุดประมาณ 23-25 องศาเซลเซียส ขณะที่กลางวันสูงสุดอยู่ที่ 32-34 องศาเซลเซียส นอกจากนี้ทะเลในบริเวณภาคตะวันออกยังมีคลื่นสูง 1 เมตร และในพื้นที่ที่มีฝนฟ้าคะนองอาจมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้: ฝนตกหนักบางพื้นที่ เตือนเฝ้าระวังคลื่นลมแรง

ภาคใต้ทั้งฝั่งตะวันออกและตะวันตกยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น โดยมีฝนตกหนักในบางจังหวัด เช่น ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร อุณหภูมิต่ำสุดในช่วงเช้าอยู่ที่ 22-25 องศาเซลเซียส ส่วนอุณหภูมิสูงสุดในช่วงกลางวันอยู่ที่ 31-34 องศาเซลเซียส สำหรับฝั่งตะวันออกทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ฝั่งตะวันตกของภาคใต้ เช่น จังหวัดระนองและพังงา ควรเตรียมพร้อมรับมือกับคลื่นลมแรงจากลมตะวันตกเฉียงใต้ ที่พัดด้วยความเร็ว 15-35 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้คลื่นในทะเลสูง 1-2 เมตร และบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร การเดินเรือขนาดเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลานี้

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล: ฝนโปรยปรายบางพื้นที่

ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในบางพื้นที่ คาดว่าร้อยละ 30 ของพื้นที่จะได้รับฝน อุณหภูมิต่ำสุดช่วงเช้าอยู่ที่ 24-25 องศาเซลเซียส ขณะที่อุณหภูมิสูงสุดในช่วงกลางวันอยู่ที่ 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกจะพัดผ่านด้วยความเร็ว 10-20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

คำแนะนำ ประชาชนในพื้นที่ภาคใต้ควรเตรียมความพร้อมในการรับมือกับฝนตกหนักและคลื่นลมแรง โดยเฉพาะชาวประมงที่ต้องเฝ้าระวังคลื่นสูงและหลีกเลี่ยงการออกเรือในช่วงที่มีพายุหรือฝนฟ้าคะนอง ขณะที่ประชาชนในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือควรสวมใส่เสื้อผ้าที่เหมาะสมเพื่อป้องกันความหนาวเย็นในช่วงเช้า