หลังจากการควบรวมกิจการระหว่างTRUE-DTACที่มีมูลค่า 250,000 ล้านบาท ผ่านมา 1 ปี 8 เดือน ได้รับรางวัลดีลแห่งปี (Deal of the Year Awards) ด้านการควบรวมกิจการจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET Awards) ประจำปี 2567 โดยบริษัทใหม่ที่เกิดขึ้นมีชื่อว่า “บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)” ซึ่งจดทะเบียนอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 มี.ค. 2566

รางวัลนี้มอบให้กับธุรกรรมที่มีความสำคัญและสร้างการเปลี่ยนแปลงที่มีนวัตกรรมในตลาดทุน แต่ดีลนี้ยังเผชิญกับความคัดค้านจากผู้บริโภคเกี่ยวกับผลกระทบและข้อกังวลเรื่องการผูกขาด เนื่องจากตอนนี้เหลือผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือเพียงสองรายเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีการยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขอให้ยับยั้งการควบรวมกิจการนี้ แต่ศาลได้มีคำตัดสินไม่รับคำร้องดังกล่าว

เมื่อถึงเดือนมีนาคม 2567 ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งให้พิจารณาคดีที่มูลนิธิเพื่อผู้บริโภคยื่นฟ้องเกี่ยวกับการควบรวมธุรกิจ แต่ยังไม่มีการตัดสินใจในคดีนี้

แม้รางวัลดีลแห่งปีจะมีหลักเกณฑ์ด้านความโปร่งใส แต่ผู้บริโภคยังมีคำถามเกี่ยวกับความโปร่งใสในการควบรวมกิจการครั้งนี้ โดยมีการประเมินว่าความโปร่งใสในการให้ข้อมูลกับประชาชนอาจไม่เพียงพอ และผลประโยชน์จากการควบรวมไม่ได้นำมาสู่การปรับปรุงบริการที่ดีขึ้นสำหรับผู้ใช้บริการ

จากการศึกษาของ 101 Public Policy Think Tank พบว่าการควบรวมทรูและดีแทคทำให้เกิดการปรับราคาค่าบริการที่เพิ่มขึ้น และลดการแข่งขันในตลาดโทรคมนาคม เนื่องจากทั้งสองค่ายและเอไอเอสเริ่มปรับราคาค่าบริการให้ใกล้เคียงกัน ส่งผลให้ผู้บริโภคไม่ได้รับประโยชน์จากการควบรวมนี้

ในขณะที่การแข่งขันในตลาดโทรศัพท์มือถือลดลงและผู้บริโภคมีทางเลือกน้อยลง สัญญาณที่เกิดขึ้นอาจทำให้ผู้บริโภคมีอำนาจการต่อรองที่น้อยลง ส่งผลให้เกิดปัญหาเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิของผู้บริโภคโดยระบบการกำกับดูแลของ กสทช. ที่ไม่ส่งเสริมการแข่งขันในตลาด