IBM ปฏิวัติวงการปัญญาประดิษฐ์อีกครั้งด้วยการเปิดตัว Granite 4.0 โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) รุ่นล่าสุด ที่ออกแบบบนแนวคิดใหม่หมดจด ผสมผสานสถาปัตยกรรม Mamba-2 เข้ากับ Transformer ในสัดส่วน 9:1 กำเนิดเป็นระบบ “Hybrid Architecture” ที่ทรงพลังแต่ใช้ทรัพยากรน้อยลงอย่างมหาศาล

จุดเด่นที่ทำให้ Granite 4.0 โดดเด่นเหนือใคร คือ ลดการใช้หน่วยความจำ RAM ได้มากกว่า 70% เมื่อเทียบกับโมเดล Transformer แบบดั้งเดิม ขณะเดียวกันยังคงความเร็ว ความแม่นยำ และความสามารถในการประมวลผล Context ที่ยาวถึง 512,000 Token ได้อย่างราบรื่น ซึ่งหมายความว่าองค์กรต่าง ๆ สามารถรันโมเดลระดับสูงนี้ได้แม้บน GPU ราคาย่อมเยา — ช่วยลดต้นทุนโดยไม่ลดคุณภาพ

IBM เปิดตัว Granite 4.0 หลายเวอร์ชันเพื่อตอบโจทย์ผู้ใช้งานทุกระดับ ตั้งแต่ Granite-4.0-H-Small (32B parameter – ใช้งานจริงเพียง 9B), Granite-4.0-H-Tiny (7B → ใช้งานจริงแค่ 1B) ไปจนถึง Granite-4.0-H-Micro แบบ Dense 3B และรุ่นพิเศษ Granite-4.0-Micro (Transformer ดั้งเดิม) สำหรับระบบที่ยังไม่รองรับโครงสร้างแบบ Hybrid ทั้งหมดนี้ผ่านการฝึกด้วยข้อมูลกว่า 22 ล้านล้าน Token ทำให้เข้าใจภาษามนุษย์ได้ลึกและหลากหลายมากขึ้น

ในแง่ของผลทดสอบ Granite 4.0-H-Small ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมใน Benchmark ระดับโลก ทั้งด้านความเข้าใจคำสั่ง (IFEval) ที่ทำคะแนนเป็นรองเพียง Llama 4 Maverick ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าเกือบสิบเท่า และยังทำคะแนนบน Berkeley Function Calling Leaderboard v3 ได้ทัดเทียมโมเดลระดับเรือธง แต่ใช้ทรัพยากรน้อยกว่าหลายเท่าตัว ขณะที่ผลการทดสอบด้าน RAG ก็อยู่ในกลุ่มผู้นำของโลกเช่นกัน

ในมิติของ “ความน่าเชื่อถือ” IBM ยกระดับมาตรฐานของโลกโอเพ่นซอร์สด้วยการทำให้ Granite 4.0 กลายเป็น โมเดล Open-source ตัวแรกของโลกที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO/IEC 42001:2023 สำหรับระบบจัดการ AI อย่างมีความรับผิดชอบ ทุกโมเดลมาพร้อมลายเซ็นดิจิทัลเข้ารหัส (Cryptographic Signature) เพื่อยืนยันความถูกต้องของต้นฉบับ และ IBM ยังเปิดโครงการ Bug Bounty ร่วมกับ HackerOne มูลค่าสูงสุด 100,000 ดอลลาร์ เพื่อเชิญนักวิจัยด้านความปลอดภัยร่วมตรวจสอบช่องโหว่

นอกจากนี้ ผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม IBM watsonx.ai จะได้รับความคุ้มครองทางกฎหมายแบบไม่จำกัดวงเงิน หากเกิดกรณีละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาจากบุคคลภายนอก

ปัจจุบัน Granite 4.0 พร้อมให้ดาวน์โหลดและใช้งานได้แล้วบนหลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น IBM watsonx.ai, Dell Pro AI Studio, Docker Hub, Hugging Face, Kaggle, NVIDIA NIM, Ollama, LM Studio, OPAQUE และ Replicate ภายใต้ ลิขสิทธิ์ Apache 2.0 ที่เปิดเสรีสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์ รองรับเฟรมเวิร์กยอดนิยมอย่าง vLLM, llama.cpp, MLX และ Hugging Face Transformers

IBM ยังยืนยันว่า ภายในสิ้นปี 2025 จะเปิดตัวรุ่นต่อยอดด้าน Reasoning AI และโมเดลขนาดใหม่เพิ่มเติม เพื่อยกระดับ Granite ให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานหลักของระบบ AI ในอนาคต

ที่มา : IBM