เมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2568 เทสล่าได้ประกาศเปิดใช้งานระบบช่วยขับอัจฉริยะ FSD (Full Self-Driving) อย่างเป็นทางการในประเทศจีน ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการขยายการใช้เทคโนโลยีขับขี่อัตโนมัติของบริษัทในตลาดที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของโลก ระบบ FSD นี้จะเหมือนกับที่เปิดตัวในสหรัฐฯ โดยมีฟังก์ชันพื้นฐานเช่นเดียวกัน ทำให้ผู้ขับขี่สามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้น

การเปิดตัวครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางข่าวที่มีการรายงานว่า ยอดขายของเทสล่าในประเทศจีนลดลงอย่างมาก โดยเฉพาะในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งมียอดขายลดลงถึง 49% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เทสล่าต้องเผชิญกับความท้าทายจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวและการแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้ยอดส่งมอบรถยนต์ของบริษัทลดลงไปอยู่ที่ 30,688 คัน ถือเป็นยอดขายต่ำสุดในรอบสองปีครึ่ง อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวระบบ FSD ใหม่ในจีนอาจช่วยกระตุ้นยอดขายและเสริมความมั่นใจให้กับลูกค้าในประเทศนี้ได้

เทสล่าโมเดล Y รุ่นปรับโฉมใหม่ได้รับคำสั่งซื้อมากกว่า 200,000 คันในประเทศจีน และโชว์รูมในเมืองปักกิ่งรายงานว่า มีการรับคำสั่งซื้อใหม่เกือบ 100 คันต่อวัน นอกจากนี้ยังมีการเริ่มส่งมอบรถยนต์ในล็อตแรกของโมเดล Y รุ่นใหม่กว่า 6,000 คันให้กับลูกค้าในจีน ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าเทสล่ายังคงได้รับความนิยมในตลาดจีน แม้จะเจอปัญหายอดขายตกต่ำในช่วงที่ผ่านมา

ระบบ FSD ของเทสล่าในจีนมีฟังก์ชันที่ช่วยให้รถยนต์ขับขี่ได้เองในสภาพแวดล้อมของเมือง โดยมีการเชื่อมโยงกับแผนที่และระบบการคำนวณที่ช่วยให้รถยนต์สามารถเลือกเส้นทางที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุด ซึ่งสามารถใช้กับรถยนต์หลายรุ่นที่ติดตั้งซอฟต์แวร์ FSD เวอร์ชัน 4.0 โดยระบบนี้จะคำนวณความเร็วที่ปลอดภัยในการขับขี่บนทางด่วนและในเมือง รวมทั้งช่วยแจ้งเตือนสัญญาณไฟจราจรและปรับการขับขี่ให้เหมาะสมกับสภาพการจราจรที่มีความแออัด

เทสล่าได้กล่าวว่า ระบบ FSD นี้จะช่วยให้ผู้ขับขี่มีความสะดวกสบายมากขึ้นและสามารถเดินทางไปยังจุดหมายได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีการควบคุมที่ปรับให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมการขับขี่ในจีน ซึ่งการพัฒนาและอัพเดตซอฟต์แวร์ในระบบ FSD จะเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มศักยภาพของการขับขี่อัตโนมัติในอนาคต

แม้ว่ายอดขายในจีนอาจลดลงในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็มีการคาดการณ์ว่า การเปิดตัวเทคโนโลยี FSD จะช่วยให้เทสล่ามีโอกาสในการเพิ่มยอดขายในประเทศนี้ ซึ่งถือเป็นตลาดที่สำคัญของบริษัท นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่าเทสล่าเตรียมขยายการใช้งานระบบ FSD ไปยังยุโรปในปี 2568 โดยเฉพาะในประเทศที่มีการเติบโตในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า เช่น ไอร์แลนด์ ที่มียอดขายรถยนต์เทสล่าเพิ่มขึ้นอย่างมากในปีนี้

ในขณะเดียวกัน เทสล่ายังเตรียมพัฒนาและขยายเทคโนโลยี FSD ไปทั่วโลก โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้การขับขี่อัตโนมัติกลายเป็นสิ่งที่สามารถใช้งานได้ในทุกประเทศ โดยมีการพัฒนาให้รถยนต์สามารถขับขี่ได้เองในสภาพถนนที่หลากหลายและซับซ้อน เพื่อให้การเดินทางของผู้ใช้รถยนต์มีความปลอดภัยและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

ในที่สุด การเปิดตัวระบบ FSD ในจีนและการเตรียมขยายไปยังตลาดยุโรปในปีนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเทสล่าในการพัฒนาเทคโนโลยีอัจฉริยะ และการขยายตัวในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะต้องเผชิญกับปัญหาภายในประเทศจีน แต่เทคโนโลยีนี้อาจเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นฟูยอดขายและเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์เทสล่าในตลาดโลก

ที่มา : Bloomberg , CNEVpost , TheJournal